EP.6

ทางเลือกและบทสรุปของเรื่องเหล้า [เรื่องเหล้าของผม ตอน 6/6]


ซีรีย์ : เรื่องเหล้าของผม
ตอนที่ :  6/6
อ่านเรื่องเหล้าของผมทุกตอนได้ที่ : https://www.choojaiproject.org/category/articles/life-series/my-alcohol-story/


ชีวิตจริงมันต่างกับเวลามาเล่าให้คนอื่นฟังก็ตรงที่
ในตอนนั้นเราไม่มีทางรู้ว่าบทสรุปของชีวิตเราจะจบลงอย่างไร

 

_________________________________

 

นี่เราจะเล่นดนตรีกลางคืนไปอีกนานแค่ไหน?”

 

ผมเริ่มถามตัวเองว่าจะเอายังไงต่อหลังจากเล่นดนตรีกลางคืนมาได้ระยะนึง ช่วงแรกๆ ก็สนุกดีที่ได้เล่นดนตรีโชว์ ได้เล่นกับเพื่อน ได้นั่งแกะเพลงสนุกๆ แต่พอต้องทำซ้ำๆ ก็เริ่มเบื่อกับความจำเจ แต่ที่เหนื่อยกว่าคือการทำงานร่วมกับเพื่อนในวงที่มีความยากขึ้นตามวัยเพราะต่างคนก็เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ชีวิตคนกลางคืนที่เริ่มต้นเลยเที่ยงวันและสิ้นสุดใกล้รุ่งสางก็ทำให้ผมต้องคิดมากขึ้น…

หากจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอดคงไม่ดีแน่ เวลารวน สุขภาพไม่ดีเพราะนอนไม่เป็นเวลา ผมเริ่มคิดอยากให้ลูปชีวิตตัวเองเหมือนคนปกติบ้าง จึงรับงานสอนช่วงกลางวันมากขึ้น และลดงานเล่นดนตรีกลางคืนลง

 

แต่ในช่วงนั้นผมกลับอยากเล่นดนตรีนมัสการมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้จะเล่นเพลงซ้ำๆ เหมือนตอนทำงาน แต่พอได้ใช้เวลากับดนตรีข้างนอกเยอะขึ้น เวลากลับมาเล่นดนตรีนมัสการยิ่งเห็นความแตกต่าง บทเพลงและพระคำของพระเจ้าเป็นเหมือนอาหารให้จิตใจที่เหนื่อยล้าจากสิ่งเร้าต่างๆ ข้างนอก องค์ประกอบของการเล่นดนตรีนมัสการต่างๆ ช่วยส่งเสริมให้ผมได้ใช้เวลากับพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเพลง พี่น้องที่ได้ร่วมกันรับใช้ คำเทศนา หรือการได้สัมผัสถึงพระเจ้าในการนมัสการในที่สุดผมก็รู้ตัวแล้วว่าต้องการสิ่งเหล่านี้มากกว่าเงิน เรียกว่าขาดไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะแม้งานรับใช้จะไม่ได้ค่าตอบแทน แต่มันก็อิ่มเอมใจและเติมเต็มจิตวิญญาณของผม

 

_________________________________

 

สำหรับผม ช่วงเวลานั้นไม่ใช่เป็นการต่อสู้เรื่องการดื่มและสังคมกลางคืนอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องทางเลือกระหว่างเวลาที่เราจะใช้ไปกับการหาเงิน หรือเวลาที่เราจะมอบให้กับการรับใช้ ครั้งหนึ่งผมมีงานรับใช้ครั้งใหญ่ที่นัดหมายกันไว้แล้ว เป็นอีเว้นท์คริสเตียนที่นานๆ จะจัดสักครั้ง แต่ต่อมาก็มีคนติดต่องานนอกเข้ามาซึ่งวันตรงกันพอดี และเขาให้ค่าจ้างถึงชั่วโมงละสามพัน…

 

“เวลาที่เจอตัวเลือกยากๆ เมื่อไม่รู้จะไปทางไหน
การอธิษฐานเป็นวิธีที่ฉลาดที่สุดที่มนุษย์อย่างเราน่าจะทำ”

 

ผมเลือกอธิษฐานและบอกความอึดอัดใจกับพระเจ้าอย่างตรงไปตรงมา ผมอึดอัด ผมเลือกไม่ถูก ผมทูลกับพระเจ้าตรงๆ ผมเชื่อว่าพระเจ้ารู้จักเราและรู้สถานการณ์ที่เหมาะสำหรับเรา ตอนนั้นมากที่สุด ไม่ใช่ทุกครั้งที่ผมเลือกไปรับใช้ ต้องยอมรับอย่างเปิดอกว่าเราก็ต้องหาเงิน ต้องเลี้ยงดูครอบครัว แต่หลายครั้งที่พระเจ้าก็ชี้ให้ผมเห็นว่า เมื่ออยู่พ้นความจำเป็นเรื่องเงินแล้ว พระเจ้าก็เร้าใจให้ผมออกไปรับใช้

.

สรุปงานนั้น ผมตัดสินใจด้วยความคิดเพียงแค่ งานรับใช้ที่ผมรับปากไว้เป็นงานที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ไม่เหมือนกับงานข้างนอกที่ผมอาจจะถูกจ้างด้วยอัตราขนาดนั้นอีกก็ได้ งานรับใช้ที่ผมจะได้ไปเล่นมันเป็นโอกาสพิเศษ แต่เงินหาเมื่อไหร่ก็ได้

 

_________________________________

 

ชีวิตผมเริ่มกลับสู่วงจรชีวิตคนกลางวันมากขึ้นหลังจากที่ตัดสินใจเริ่มเบนเข็มออกจากการเล่นดนตรีกลางคืน ผมยังคงรับงานเล่นตามอีเว้นท์บ้าง แต่ก็ไม่ได้เล่นประจำแล้ว และเน้นสอนดนตรีเพื่อหาเลี้ยงชีพแทน ทำให้มีโอกาสได้รับใช้มากขึ้นในโบสถ์ ชีวิตโดยรวมดูปกติสุขมากขึ้น ยกเว้นก็แต่

 

พ่อไม่ต้องสอนผม ผมไม่ต้องการคำสอน ผมได้คำสอนมาเยอะละ สิ่งที่ผมต้องการคือแบบอย่าง

 

ผมเคยพูดประโยคนี้กับพ่อตอนก่อนเข้ามหาลัย ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโต ความทรงจำระหว่างพ่อกับผมเป็นเหมือนภาพไร้เสียง ภาพแห่งความเจ็บปวดในวัยเด็ก สายตาแห่งความทุกข์ใจของแม่และยายที่เป็นภาพติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่ผมพูดประโยคนั้นกับพ่อ คงทำให้เขาเสียใจมากเหมือนกัน และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรายิ่งเงียบลงไปอีก

 

จนกระทั่งวันที่ผมรับปริญญา พ่อเดินมาบอกว่า

พ่อไม่รู้จะให้อะไร พ่อจะเลิกเหล้าเป็นของขวัญให้แล้วกัน

 

ตอนนั้นภาพไร้เสียงตั้งแต่วัยเด็กโผล่ขึ้นมาในหัวผมอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างเหมือนลากเส้นต่อจุดเข้าด้วยกัน ถึงผมจะเคยโกรธและไม่ชอบพ่อมากแค่ไหน แต่ในขณะนั้นก็เหมือนพระเจ้ายื่นของขวัญให้กับผม

 

ผมกำลังจะได้พ่อคืนมา

 

พระเจ้าได้ตอบคำอธิษฐานที่ผมอธิษฐานมาตลอดสิบกว่าปี หลังจากนั้นถึงแม้พ่อจะยังไม่สามารถเลิกเหล้าได้อย่างเด็ดขาด แต่ระดับแอลกอฮอล์ที่ลดลงในตัวพ่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราเริ่มดีขึ้น ผมคุยกับแกได้เยอะขึ้น และทำให้ความสัมพันธ์ของเราทุกคนในบ้านเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม

 

_________________________________

 

มองย้อนกลับไปด้วยตัวอักษรอาจฟังดูง่ายและได้ข้อสรุปที่รวดเร็ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของผมมันไม่ง่ายและใช้เวลาพิสูจน์เป็นสิบปี การยืนหยัดในสังคมที่เห็นว่าการดื่มเป็นเรื่องธรรมดาดูคล้ายกับการว่ายทวนน้ำมาราธอน แต่ผมกลับขอบคุณพระเจ้าเสมอที่สิ่งเหล่านี้เกิดกับผม พอพูดถึงตรงนี้ก็ทำให้ผมเข้าใจจุดประสงค์ที่พระเจ้าให้ผมได้ผ่านมันมาได้ นั่นก็คือเพื่อให้ผมได้มีชีวิตที่เป็นแบบอย่างให้กับพ่อ ให้ผมได้มีโอกาสเล่าพระพรเหล่านี้ให้กับคนอื่น และเป็นกำลังใจให้คนอื่นต่อไปได้

 

การที่ผมทำได้ ไม่ใช่เพราะผมเก่งหรือดีกว่าใครนะครับ
ผมว่ามันเป็นเรื่องของการยอมกับพระเจ้าเท่านั้นจริงๆ
และการ ‘ยอม’ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ในชีวิต

.

เช่นเดียวกับสิ่งไม่ดี ที่ก็เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ซึ่งทำอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

 

ดังนั้นหากคุณมีความตั้งใจที่อยากจะยืนหยัดหรือสวนกระแส คุณทำได้ด้วยการยอมจำนนต่อพระเจ้าก่อน การติดสนิทกับพระเจ้าจะสร้างฐานรากที่มั่นคงให้เป็นหมุดยึดชีวิตของคุณ แล้วหลังจากนั้นถึงค่อยปักหมุดกับจุดยืนของตัวเองอีกทีว่าทำไมเราถึงไม่ดริ๊งก์ สำหรับคนที่รู้ตัวว่าคงจะลื่นล้มแน่ๆ ก็พยายามอย่าเอาตัวเองไปยืนในทางลื่น แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ คุณก็ต้องฉลาดที่จะหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองในทุกช่องทาง เตรียมคำพูด เตรียมวิธีการรับมือไว้ล่วงหน้า แต่ถ้าให้ดี ยังไงก็อย่าอยู่ในทางลื่นนานๆ นะครับ เพราะยังไงสักวันคุณก็อาจจะล้มได้อยู่ดี และหากล้มไปแล้วก็ขอให้อธิษฐานสารภาพกับพระเจ้าแล้วลุกขึ้นใหม่ครับ

.

นี่แหละครับ เรื่องเหล้าของผม

แล้วเรื่องเหล้าของคุณล่ะ เป็นยังไง?


คอลัมน์ #เด็กสมัยนี้ ร่วมติดตามเรื่องราวของเด็กต้นเรื่อง และการเดินทางแสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้าของเหล่าคริสเตียนรุ่นใหม่ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 1 ทุ่มตรงนะจ๊ะ


Previous Next

  • Author:
  • เป็นคนคูลๆ เป็นคริสเตียน เรียนดนตรี บุหรี่ไม่สูบ รูปโปรไฟล์ไม่ค่อยเปลี่ยน แม้ตัวจริงไม่ได้แก่แต่เพื่อนๆ ให้ฉายาว่า "ผู้ใหญ่บ้าน" เรื่องเขียนเพลงพี่ชูใจไม่ห่วง แต่เรื่องเขียนบทความนี่พี่ชูใจอยากให้ลองอ่าน
  • Illustrator:
  • tumtim
  • เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
  • Editor:
  • Jick
  • บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง
  • Editor:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน