ชูใจอัพเดท ตุลาคม 2019


สวัสดีครับ พี่น้องที่คอยชูใจอยู่เสมอ

 

ต้องขออภัยด้วยที่จดหมายฉบับนี้อาจมาช้าหลังจากจดหมายของจิ๊ก ที่ผ่านมาเราต้องปรับและจัดการหลายอย่าง ซึ่งผมไม่ใช่นักจัดการก็เลยค่อนข้างวุ่นวายอยู่บ้าง แต่ก็พอจะผ่านไปได้ และผมคงจะแจ้งให้พี่น้องทราบต่อไปว่างานหรือทิศทางของชูใจจะเป็นอย่างไรต่อ ซึ่งหลังจากนี้พี่น้องอาจต้องปรับหูตามสำเนียงที่เปลี่ยนไปจากจิ๊กมาเป็นผมอยู่นิดหน่อย อาจฟังดูไม่คุ้นเคยอยู่บ้าง แต่ก็อยากให้พี่น้องได้เดินต่อไปด้วยกันกับเรา

 

นี่เป็นจดหมายฉบับแรกที่ผมได้เขียนเอง แม้ที่ผ่านมาจิ๊กจะเป็นคนเขียน แต่ในวันเวลาที่ชูใจดำเนินอยู่ตามทางที่ผ่านมา ในช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์ให้ตกใจ และ ในเวลาที่ขอบคุณพระเจ้าทั้งน้ำตา เราก็อยู่ข้างกันเสมอ ตั้งแต่วันแรกที่จิ๊กตัดสินใจจะเริ่มทำ “ชูใจ” และ วันที่จิ๊กอยากจะขอพักจากงาน

 

สำหรับจิ๊ก ในช่วงที่ผ่านมาได้ตัดสินใจเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการ Burnout กับผู้ให้คำปรึกษาแล้วครับ คงใช้เวลาอีกพักหนึ่งในการฟื้นฟูสภาพจิตใจ ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ แต่ขอให้อยู่ในการดูแลของพระเจ้า

 

อันที่จริงแล้ว ตอนก่อนผมจะออกจากงานประจำ ผมก็มีภาวะ Burntout อยู่ แต่ไม่รู้ว่านั้นคือการ “Burnout” จำความรู้สึกได้เพียงว่า ไม่อยากทำงานอยู่ที่นี้แล้ว อยากออกไปแม้ไม่รู้ว่าจะออกไปไหน หรือ มีงานอะไรรองรับไหม แค่เพียงรู้สึกว่าอยู่ไม่ไหวแล้ว ความอัดอั้นนั้นผลักให้ผมตัดสินใจ “ออก” จากงานที่ทำมาร่วม 10 ปี

 

รู้ไหมครับ ในหนังสือแนะนำการใช้ชีวิต หรือ ผู้ประสบความสำเร็จหลายๆคนในยุคนี้ ไม่เคยมีใครแนะนำให้ออกจากงาน โดยไม่มีหลักประกันอะไรเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยเลย 30 และ ประสบการณ์การทำงานที่อยู่แต่ในองค์กรคริสเตียน แทบเอาไปใช้แนะนำตัวในโลกข้างนอกไม่ได้เลย ผมก็ไม่แนะนำให้ทำอย่างนั้นนะครับ เพราะลุ้นระทึกมาก จากความ Burnout ที่อยากวิ่งหนีออกมา กลายมาเป็นเครียดและกังวลว่าจะทำอะไรยังไงต่อไปกับชีวิตหนักกว่าเดิมอีก

 

ในท้ายปีนั้นผมคุยกับจิ๊กเพื่ออยากลองออกมาทำร้าน “บอร์ดเกม” ซึ่งแม้ดูไม่เหมาะจะเป็นธุรกิจเลี้ยงชีพ แต่ก็เป็นเรื่องที่ผมสนใจและคิดว่าน่าจะถนัด และอีกความคิดหนึ่งที่ว่าการออกมาครั้งนี้ผมก็ตั้งใจออกมาช่วย “ชูใจ” กับจิ๊กแบบเต็มตัวด้วย ก็พอทำให้เหตุผลในการตัดสินใจดูมีนำ้หนักมากกว่าแค่ Bunrout และหนีออกมา

 

ถ้าพี่น้องที่ถวายและอ่านจดหมายติดตาม update มาคงทราบว่าปีที่ผมลาออกนั้น พ่อของผมประสบอุบัติเหตุ และท่านจากไปในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

 

ทุกอย่างมาประจวบเหมาะราวกับจะบอกว่าที่ผมรู้สึก Burnout นั้นเป็นความรู้สึกที่ผิด และ การตัดสินใจของผมนั้นเลวร้าย ปีที่ผมอายุ 35 เป็นช่วงเวลาที่ผมดิ่งลงไปในความรู้สึกแห่งความโศกเศร้า ผมคิดว่าผมไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีทั้งงานประจำ ความมั่นคงของร้านที่พึ่งเริ่มต้น ความรู้สึกสูญเสียที่ต้องสูญเสียคุณพ่อไป เหมือนคลื่นที่ซัดปราสาททรายให้พังลงก่อนจะลากทุกอย่างกลับสู่ทะเล

 

แต่พระเจ้าก็นำผมให้ได้เข้าใจ เมื่อผมได้มีโอกาสได้เข้าใจในเรื่องราวที่พระองค์ทิ้งไว้ให้ชูใจพวกเราในพระคัมภีร์ ผ่าน Podcast ที่ผมกำลังตัดต่อกับ พี่ใช้(อ.ธนิต)

 

ปฐมกาลบทที่ 21 เมื่อพระเจ้าลองใจให้อับราฮัมถวายอิสอัค เป็นเวลาที่ อับราฮัมไม่เหลืออะไรแล้วนอกจากพระเจ้า

 

พระเจ้าเคยเรียกอับราฮัมให้ออกไปรับพันธสัญญา (ปฐก 5) แล้วอับราฮัมก็ออกไปเพราะเชื่อในพระสัญญา ซึ่งจะประทานผ่านอิสอัค และผ่านเหตุการณ์มามากมายหลายสิบปี อิสอัคก็เกิดและโตขึ้น ทุกอย่างดูจะจบครบตามสัญญา แล้วก็มาถึงบทนี้ที่พระเจ้าเรียกให้อับราฮัมถวายอิสอัค ถ้าพี่น้องรีบหยิบพระคัมภีร์ขึ้นมาเปิดอ่านดูตอนนี้แล้วจะพบว่าในพระคำตอนนี้พระเจ้าไม่ได้สัญญาว่าจะให้อะไรทั้งสิ้นจากการถวายครั้งนี้เลย ดังนั้น การให้ถวายอิสอัคครั้งนี้ คือ ไม่มีพระพรให้ ไม่เหลืออดีตให้เก็บเกี่ยว และ ไม่ประกันความหวังในอนาคต มีเพียง อับราฮัมและความเชื่อของท่านในตอนนั้น กับ พระเจ้า

 

ความเชื่อของอับราฮัมถูกพระเจ้าปรับมาสู่จุดที่ควรจะเป็นคือ ไม่เกี่ยวกับว่าจะได้รับพระพร หรือ อนาคตที่ดี แต่ย้ายความเชื่อเรามาที่พระเจ้า ผู้ทรงพระคุณและดี (ในรายละเอียดอื่นๆพี่น้องสามารถรอและติดตามได้ผ่าน podcast เกี่ยวกับพระคัมภีร์ที่จะมาในเร็วๆนี้)

 

ผมไม่ใช่อับราฮัม แต่พระเจ้าก็ทำให้ผมได้เข้าใจมากขึ้น ผมยังมีพระเจ้า พระเจ้าที่ทรงสัตย์ซื่อเสมอมาในชีวิตของผม

 

ในเวลาที่ผม Burnout ผมได้พักจากงานมาดูแลพ่อในช่วงสุดท้ายของท่าน ในปีที่ดูไม่มีหวัง แต่ที่ทำงานเดิมก็ยังให้งานมาโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิตให้ผมยังพอมีรายได้ และ ร้านที่ไม่รู้อนาคตก็กลับมีลูกค้าพอให้มีรายได้พอเลี้ยงตัว รู้ไหมครับว่าพอผมลาออกแล้วผมก็ยังช่วยที่ทำงานเดิมอยู่ เพราะอยากช่วยจริงๆ โดยที่ความรู้สึกที่เคยอยากกระโดดออกมานั้นหายไป ผมรู้แล้วว่าการ Bunrout รู้สึกยังไง และ มันทำร้ายเราได้อย่างไรบ้าง

 

และ เมื่อจิ๊ก Burnout ผมก็เข้าใจ และไม่ได้ขออะไรจากเธอมากกว่าให้เธอได้พัก

 

ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญและคงไม่ได้ให้คำตอบในเรื่องการ Burnout แต่อยากให้พี่น้องได้ระมัดระวังทั้งตัวเองและคนรอบข้าง เพราะในสังคมและสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย และอย่าให้ต้องถึงขั้น Bunrout กัน มันไม่ง่ายที่จะทำให้กลับมาเหมือนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ Burnout ทั้งๆที่อยู่ในงานรับใช้ แต่ด้วยพระคุณที่ผมได้รับความรู้สึกนั้นมาก่อน ในวันที่ภรรยาผมต้องเผชิญ ผมจึงมีความเข้าใจในตัวเธอมากขึ้น

 

สำหรับตัวผมเองเรื่องนี้ทำให้ระลึกถึงจุดเริ่มต้นของ ชูใจ ในวันแรกที่เราตั้งชื่ออีกครั้ง

 

วันที่ยังไม่มีชื่อ และ เรากลับบ้านเพื่อไปหาชื่อกัน ผมเปิดพระคัมภีร์เพราะคิดว่าถ้าเราอยากเริ่มทำพันธกิจอะไรสักอย่าง ชื่อก็ควรมาจากพระคัมภีร์ วันนั้นผมได้เจอกับคำขึ้นต้นจดหมายฝากของ อ.เปาโล

 

…พระองค์ผู้ทรงชูใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถชูใจคนเหล่านั้น ที่มีความทุกข์ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยความชูใจ ซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า เพราะว่าเรามีส่วนทนทุกข์กับพระคริสต์มากฉันใด ความชูใจของเราเนื่องจากพระคริสต์ก็มากฉันนั้น

 

ซึ่งตัวผมเองได้รับการชูใจจากพระเจ้า และเมื่อผมผ่านมาได้ ผมก็ได้ชูใจคนอื่นต่อ เริ่มจากภรรยาของผมก่อน และ คนอื่นต่อๆไป ดังนั้น ผมมั่นใจว่าพระคัมภีร์ข้อนี้จะยังคงเป็นเป้าหมายและทิศทางของ “ชูใจ” ต่อไป

 

แม้วันนี้เราอาจเจอปัญหา หรือ เรื่องที่รู้สึกว่าทุกข์เกินรับได้ อาจไม่มีใครเข้าใจ ขอให้รู้ว่าถึงกระนั้น “ยังมีพระเจ้า” อยู่กับเราเสมอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน แต่ผมก็มีความหวังว่าตอนจบของเรื่องร้ายๆนั้นจะกลับกลายเป็นคำขอบพระคุณ ในเรื่องที่พระเจ้าได้ทำการชูใจพี่น้องนะครับ

 

หรือ ถ้าผ่านมาได้และอยากแบ่งปันก็ส่งมาเล่าให้ฟังกันได้

 

ส่วน Podcast เรื่องพระคัมภีร์ปฐมกาล กำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำครับ เป็นเรื่องที่อยากให้ฟังกันจริงๆ ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้เปลี่ยนชีวิตผมมาก และ นี้ไม่ใช่การสอนพระคัมภีร์ หรือ เรียนออนไลน์ แต่เป็นเรื่องที่พี่น้องคริสเตียนควรจะรู้และเข้าใจ เพื่อการมีความเชื่อและถูกต้องและมั่นคง

 

สวัสดีชาวโลก EP1 ทำไมเราจึงไม่เข้าใจเค้าแล้วทำไมเค้าจึงไม่เข้าใจเรา

 

ส่วน Hello World สวัสดีชาวโลก เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น้องพีได้เริ่มลงเป็นตอนแรกแล้ว ตั้งใจชวนคุยประเด็นเรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวัน และความสัมพันธ์ทั้งกับคนทั่วไป และสังคม ชวนคุยเพื่อการปรับตัวในยุคที่เคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว เพื่อเราจะมีชีวิตแบบคริสเตียนท่ามกลางสังคมอย่างจริงจัง

ส่วน Content “Love Coach” กำลังอยู่ในการวางแผนงาน ตอนใหม่นี้เราตั้งใจจะพาข้ามความรักวัยรุ่นไปสู่ช่วงความเป็นจริงของชีวิตคู่กันดูบ้างว่าจะมีการใช้ชีวิตและอยู่กันยังไงให้ชูใจในความสัมพันธ์

 

ขอให้อยู่ในคำอธิษฐานของพี่น้องด้วย

ฉบับนี้ขอเป็นคำแนะนำตัว และแนะนำ podcast ที่กำลังจะมาถึงนะครับ

 

 

ด้วยรักและชูใจ

ท็อป 


Previous Next

  • Author:
  • เนื้อแท้เป็นคนรักหนัง เบื้องหลังดีไซน์เก๋ๆ สวยๆ ของเว็บชูใจ คือฝีมือของเค้า นักออกแบบตัวยงผู้รักบอร์ดเกมเป็นชีวิตจิตใจ และอยากเห็นงานสร้างสรรค์คริสเตียนไทยพัฒนาก้าวไกลไม่แพ้ชาติไหนในโลก