ชูใจอัพเดท เมษา-พฤษภา 2018


รู้สึกหายไปนานมากจากการเขียนชูใจอัพเดทครั้งนี้ และเป็นครั้งหนึ่งที่เขียนได้อย่างลำบากยากเย็นค่ะ

 

ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงไม่กี่สัปดาห์มานี้ นอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวแล้ว จิ๊กกับท๊อป (สามี) ตัดสินใจทำร้านบอร์ดเกมกันอีกครั้ง เราสองคนตั้งใจว่าเราอยากจะมีธุรกิจเล็กๆที่พอเลี้ยงตัวได้ ในขณะที่ทำพันธกิจไปด้วย และด้วยงบประมาณที่จำกัดทำให้เราต้องลงมือทำร้านเองด้วยตัวเองให้มากที่สุด ตั้งแต่ทาสี ปูพื้น ประกอบโต๊ะ ทำป้าย ต่อไฟ ฯลฯ นี่เป็นสาเหตุของความเหนื่อยกายในช่วงที่ผ่านมาค่ะ

 

การทำร้านของเรามีเหตุสะดุดเป็นพักๆ ทั้งเรื่องการเสียชีวิตของพ่อท๊อป ปัญหาเรื่องการสื่อสารภายในครอบครัว การจัดการเวลาของเราสองคน และภาวะแห้งแล้งฝ่ายวิญญาณ  จิ๊กได้แต่ถามพระเจ้าว่า ทำไมมองไม่เห็นเป้าหมาย ทุกอย่างดูน่าท้อใจและเต็มไปด้วยความผิดหวัง ความสดใหม่และความกระตือรือร้นของการรับใช้มันหายไปไหนหมด จิ๊กไม่รู้สึกสนุกกับงานอีกต่อไป เริ่มมองทุกอย่างติดลบและเต็มไปด้วยปัญหา ไม่อยากแม้กระทั่งใช้เวลากับผู้คน อยากอยู่แต่กับตัวเอง ไม่อยากไปโบสถ์ รู้สึกอยากถอนตัวออกจากทุกสิ่ง ใจหนึ่งก็ตระหนักว่า นี่เป็นแค่ความรู้สึกของผู้หญิงวัยกลางคนที่มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนช่วงประจำเดือนเป็นพักๆ เท่านั้น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกหนักอึ้งอยู่ตลอด และไม่รู้ว่าทางออกคือตรงไหน การต้องเป็นคนที่ขับเคลื่อนคนอื่นแต่ตัวเองสูญเสียทิศทางที่จะนำ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาเป็นจุดวัดใจอีกครั้ง และนี่เป็นสาเหตุของการเหนื่อยใจในช่วงที่ผ่านมาค่ะ

 

ในขณะที่จิ๊กดำดิ่งกับสภาพอารมณ์ติดลบของตัวเองเป็นพักๆ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ชูใจได้มีโอกาสต้อนรับน้องฝึกงานที่มาจากกรุงเทพ…ชีวิตดีดีที่ลงตัว น้องชื่อวิน เรียนนิเทศศิลป์ ปี 3 อยู่ที่ม.ลาดกระบัง และจะมาฝึกงานกับชูใจไปอีกเกือบ 2 เดือน และเนื่องจากน้องยังไม่มีที่พักในเชียงใหม่ จิ๊กก็เลยรับมานอนที่บ้านด้วยกันไปก่อน

 

 

เป็นเรื่องประหลาดมากที่หลังจากได้พูดคุยทำความรู้จักกันไปสักพัก จิ๊กเริ่มเห็นว่าเรามีความคล้ายคลึงกันในหลายอย่าง จิ๊กกับวินได้คุยกันหลายเรื่องทั้งการใช้ชีวิต การรับใช้ การเลือกงาน ความรัก และโดยไม่รู้ตัวที่หลายครั้ง หลังกลับจากทำงานมาเราคุยกันต่อจนดึกอีกหลายชั่วโมงในเรื่องต่างๆ

 

สิ่งที่สังเกตตัวเองได้จากการพูดคุยกับวินก็คือ จิ๊กได้มีโอกาสทบทวนเรื่องราวชีวิตของตัวเองให้น้องฟัง และแบ่งปันกับน้องในสิ่งที่เราผ่านมาก่อน มุมมองและทัศนคติที่เราได้จากการรับใช้พระเจ้า การเติบโตจากความผิดพลาดหลายเรื่องของเราในอดีต… เมื่อสิ่งที่เราต้องการส่งต่อมีผู้รับฟังอย่างตั้งใจจึงทำให้ความรู้สึกหนักอึ้งในใจที่มีก่อนหน้านี้ค่อยๆ หายไปอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่วินเองก็บอกเหมือนกันว่า นี่เป็นการทรงนำของพระเจ้าชัดๆ ที่ให้ได้มาเชียงใหม่และได้มาเปิดโลกที่นี่ เพราะสิ่งที่เราแบ่งปันกับเขาทำให้เขาเข้าใจอะไรมากขึ้น ทั้งหมดนี้เราท้ังคู่ต่างเห็นตรงกันว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ และพระเจ้าต่างให้เรามาเจอกันเพื่อแทนคำตอบของสิ่งที่เราอธิษฐานขอทางออกจากพระเจ้า

 

เราไม่มีทางรู้เลยว่าพระเจ้าจะใช้วิธีการไหนในการตอบคำอธิษฐานและฟื้นฟูภายในของเราขึ้นใหม่ ถึงแม้สถานการณ์ส่วนตัวของจิ๊กยังไม่ได้ดีขึ้นทั้งหมด แต่ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์รู้จักความเป็นเราดีกว่าใคร การที่พระองค์ส่งวินมาให้จิ๊กได้มีโอกาสเลี้ยงดูและใช้ชีวิตกับเขาช่วงสั้นๆ กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ภาระใจแรกของจิ๊กในการรับใช้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกับฝนแรกหลังฤดูร้อนที่แห้งผาก

 

เชื่อว่าพี่น้องบางท่านอาจเคยเจอ หรือกำลังอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่แห้งผากเหมือนกัน หวังใจว่าพี่น้องเองจะอดทนรอคอยคำตอบจากพระเจ้า ที่จะมาถึงพี่น้องในเวลาที่เหมาะสมนะคะ การรอคอยพระเจ้าย่อมคุ้มค่าเสมอค่ะ

………………..

สำหรับบทเรียนที่พระเจ้าสอนจิ๊กผ่านเหตุการณ์ดำดิ่งในช่วงทีผ่านมาก็คือ

  • การจัดเวลา connect กับพระเจ้าอย่างมีคุณภาพ 
  • การรู้จักหยุดพัก
  • และการมีกลุ่มคนที่คอย support

เป็น 3 สิ่งสำคัญที่จะป้องกันการ burn out จากการทำงานและการรับใช้ ซึ่งบางอย่างจิ๊กเองก็ละเลยและให้ภารกิจในแต่ละวันเข้ามาบดบังและแย่งความสำคัญของการใช้เวลากับพระเจ้าไปซะหมด (เขกหัวตัวเองหนึ่งที!)

 

สุดท้ายก่อนจะไปอัพเดทเรื่องงานในชูใจ ขอขอบคุณผู้ถวายหลายๆ คนที่เข้ามาพูดคุยกันด้วยนะคะ  ตั้งแต่คนที่รู้จักจนถึงคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ถึงแม้จะรู้สึกละอายใจว่าต้องให้ผู้ถวายมาหนุนใจแต่ก็ขอบคุณพระเจ้ามากๆ ที่พระเจ้าได้จัดเตรียมผู้ถวายไว้ให้เป็นเครื่องยืนยันว่าพระเจ้ายังคงใช้นำ้มือของเราอยู่ ขอบคุณทุกท่านจริงๆ ค่ะ เห็นเงียบๆ แบบนี้แต่ซาบซึ้งมากนะคะขอบอก 555+


อัพเดทพันธกิจ

  • ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ในที่สุดก็ได้ออกซีรีส์ Me & Another Me บันทึกเรื่องราวชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่เป็นโรคซึมเศร้าและได้มารู้จักกับพระเจ้า ตอนนี้กำลังจะปล่อย season ที่ 2 อีก 4 ตอนค่ะ สิ่งที่ขอบคุณพระเจ้าก็คือเพราะจากชูใจอัพเดทเมื่อคราวที่แล้ว ทำให้มีผู้ถวายรายหนึ่งแนะนำให้รู้จักกับเฟยที่เป็นนักจิตบำบัด อยู่รพ.จุฬา นี่ก็เป็นการทรงนำของพระเจ้าอีกอย่างหนึ่งที่เห็นชัดเจนมากๆ เพราะจิ๊กไม่ได้บอกผู้ถวายคนไหนว่ากำลังหาผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคริสเตียนมาเขียนบทความเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า หลังจากที่พูดคุยกับเฟย เขาก็ยินดีเขียนให้ด้วยความกระตือรือร้น ไฟแรงยิ่งกว่าบก.ซะอีก 555+ ก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเฟยด้วย โอกาสนี้ค่ะ

  • เมื่อสัปดาห์ก่อนทีมชูใจได้ไปเป็นวิทยากรให้กับค่ายของคอมแพสชั่น เพื่อแบ่งปันเรื่องซาเทียร์ค่ะ เป็นศาสตร์จิตวิทยาอย่างหนึ่งที่ให้เข้าใจถึงเบื้องหลังของพฤติกรรม ของคน แล้วก็เมื่อเดือนที่แล้วเราได้ไปแบ่งปันเกี่ยวกับการทำพันธกิจวัยรุ่น เป็น mini-workshop ให้กับชั้นเรียนพันธกิจอนุชน ของพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารีค่ะ ขอบคุณพระเจ้าที่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีคนติดต่อให้ทีมชูใจไปแบ่งปันแล้วถึง 4 ครั้งค่ะ 

 

  • ส่วนเมื่อต้นเดือนเมษา จิ๊กได้ไปพบปะกับอาสาฯ ที่อยู่กทม. ค่ะ ได้ทำความรู้จักและบางคนได้เห็นหน้าค่าตากันเป็นครั้งแรก ได้เดินทางไปพูดคุยกับผอ.กนกบรรณาสาร และอ.หุย ที่พระคริสต์ธรรมสวนพลูค่ะ หลักๆ คือเป็นการสร้าง connection และแนะนำชูใจให้รู้จักอย่างเป็นทางการ มีพูดคุยเบื้องต้นเรื่องการ partner กันบ้างแต่ จุดนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากค่ะ

 

  • คราวที่แล้วที่อัพเดทเกี่ยวกับหนังสือ Love Letter ให้กับคอมแพสชั่น ก็ขอบคุณพระเจ้าที่คอมแพสชั่นสั่งหนังสือ Love Letter ไป 500 เล่ม เพื่อจะซื้อไปแจกให้กับโครงการคอมแพสชั่นทั่วประเทศ ถึงแม้ในล๊อตของชูใจยังเหลืออยู่ประมาณ 40 เล่ม แต่เพราะออเดอร์ใหญ่ทำให้เราพอจะมีเงินซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับงานกราฟิกแล้วค่ะ!!! ยิ่งไปกว่านี้จิ๊กดีใจมากที่ได้ทำให้ เจเจ้ กับ น้องวิลา เพจ Happy Holy มีความมั่นใจในการผลิตชิ้นงานออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม ในส่วนของการทำหนังสือทุกครั้งที่จัดพิมพ์เราก็จะแบ่งเงินส่วนค่าลิขสิทธิ์ไว้ให้กับเจเจ้และวิลาด้วยค่ะ

 

  • ตอนนี้เรากำลังเตรียมงานของคอลัมน์ใหม่กันอยู่ค่ะ ทั้ง Love Coach ที่กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบจากบทความเป็นวีดีโอ พร้อมกับการเปิดตัวเจเจ้ และโค้ชเพิ่มอีก 1 คน ส่วนงานอีกชิ้นคือคอลัมน์เก่าเก็บที่ชื่อว่า พระคัมภีร์เข้าใจง่ายค่ะ หมักดองกันข้ามปีตอนนี้เริ่มผลิตเนื้อหากันแล้ว ส่วนอีกงานที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาก็คือ บทความเกี่ยวกับการช่วยตัวเอง ที่เลือกทำอันนี้เพราะเห็นว่าจะมีประโยชน์กับน้องผู้ชายอีกมาก ถึงแม้เมื่อปีก่อนเรามีบทความแปลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแต่ด้วยความที่ยังไม่ค่อยเน้นไปเรื่องวิธีการเท่าไหร่ เลยคิดว่าน้องที่เป็นผู้เขียนน่าจะแบ่งปันวิธีการแก้ปัญหาได้ชัดเจนกว่าในบริบทของคนไทยค่ะ

 

  • สิ่งที่อยากฝากอธิษฐานเผื่อก็คือ การเตรียม workshop ค่ะ ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีความคืบหน้าเลย เนื่องจากสภาพของตัวเองช่วงที่ผ่านมาด้วย ขอพระเจ้าให้สติปัญญาและนำคนที่เหมาะสมในการลงมือทำให้เกิดขึ้นได้จริงและตอบโจทย์ด้วยค่ะ

 

สุดท้ายก่อนจากกันไป จิ๊กกับน้องๆ ยังคงอธิษฐานเผื่อผู้ถวายทุกคนนะคะ หลายคนอาจขาดการติดต่อไปบ้างแต่ยังคงอธิษฐานเผื่อท่านอยู่นะคะ ถ้ามีหัวข้อไหนที่อยากให้เราอธิษฐานเผื่อเป็นพิเศษ LINE กันมาบอกได้เลยนะคะ

 

ด้วยรักและชูใจค่ะ

จิ๊ก
Choojai Founder


Previous Next