สวัสดีชาวโลก EP4 Soft skill กับโลกของการรับใช้

EP.4

EP4 – Soft Skill กับโลกของการรับใช้ [สวัสดีชาวโลก Podcast]



________________________

* สำหรับ iphone สามารถติดตามฟังใน ได้ทาง App Podcast ได้แล้วนะคะ  >>> วิธีการฟังรายการ สวัสดีชาวโลก! ใน iphone


 

 

 

ในโลกของการทำงาน…ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร ทั้งงานทั่วๆ ในโลก หรืองานรับใช้ก็ตาม องค์กรต่างๆ ก็ล้วนอยากได้คนที่มีทักษะเก่งๆ กันทั้งนั้น   แต่ว่าแค่นั้นยังไม่พอ เพราะต่อให้พนักงานในองค์กร จะมีทักษะการทำงานที่ดีแค่ไหน แต่ถ้าทักษะทางสังคมไม่ดี ก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานได้

 

การที่เรามีทักษะในทำงานเก่งนั้นก็เป็นเรื่องดี แต่อีกสิ่งกำลังเป็นที่สนใจขององค์กรต่างๆ มากขึ้นในทศวรรษนี้ก็คงหนีไม่พ้น “ทักษะทางสังคม” เพราะองค์กรณ์หลายแห่งมีบุคลากรที่มีทักษะการทำงานดีๆ เยอะแล้ว ต่อให้ทักษะไม่ค่อยดีเค้าก็จัดอบรมให้กันได้

 

แต่คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมในการทำงานของคนในองค์กรก็สำคัญ และสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดก็คงเป็น ตัวคนในองค์กรณ์เองนั่นแหละ หลายๆ คนเป็นคนที่เก่งนะแต่ว่ามีความเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมในที่ทำงาน (Toxic)  การทำงานก็อาจสะดุด ดังนั้นคนก็เลยหันมให้ความสำคัญทักษะอีกแบบที่ไม่ใช่แค่ความรู้หรือความเก่ง  แต่เป็นเรื่องของความดี  ไม่ใช่แค่นิสัยดีนะแต่เป็นคนที่อยู่แล้วดีต่อองค์กร

 

“ซึ่งคุณลักษณะที่ดีต่อองค์กรและการทำงานนั้นเค้าก็เรียกกันว่ามันเป็น Soft skill ที่ควรมีในการทำงาน”

 

ชาวชูใจอาจจะเคยได้ยินเรื่องของ Hard skill และ Soft skill ในการทำงานให้ประสบความสำเร็จกันมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าในการรับใช้ที่คริสตจักรนั้นเราสามารถนำ soft skill มาช่วยทำให้การรับใช้ของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเหมือนกัน!

 

 

 

รู้จักกับคำว่า Hard skill และ Soft skill กันก่อน

 

‘Skills’ เป็นคำที่หลายคนรู้จักดีว่าแปลว่า “ทักษะ”

แต่สำหรับคำว่า ‘Hard Skills และ Soft Skills’ ไม่ได้แปลกันตรงตัวแบบ  ‘ทักษะแข็ง และทักษะนิ่ม’ นะ แต่หมายความว่า ‘ทักษะด้านความรู้ (Hard Skills ) และทักษะด้านอารมณ์และสังคม (Soft Skills)’

 

เราคุ้นเคยกับ Hard Skill อยู่แล้ว

 

hard skill คือ ‘ทักษะหลักที่ใช้ในการทำงานในสายวิชาชีพต่างๆ ที่เราสามารถเรียนรู้ผ่านการเรียนในสถาบัน หรือการฝึกฝนจนชำนาญ’

 

เช่นวิศวกรต้องมีความรู้เรื่องโครงสร้างตึกและคำนวนการรับน้ำหนักได้  ดีไซน์เนอร์ต้องมีความรู้เรื่องสี เรื่องรูปทรง  มาสเตอร์เชฟต้องเข้าใจเรื่องวัตถุดิบและวิธีการปรุง (เตือนแล้วนะ!)

 

สำหรับงานรับใช้ในโบสถ์ก็ไม่ต่างกัน เช่น ผู้รับใช้เราก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับพระคัมภีร์และศาสนพิธี สามารถเขียนโครงร่างคำเทศนาได้ หรือหากเป็นผู้นำนมัสการ เราก็ต้องมีทักษะในการร้องเพลงบ้างและอาจต้องรู้ทฤษฎีดนตรีนิดหน่อย เป็นต้น ซึ่งทักษะเหล่านี้มีสอนกันในโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงเรียนพระคริสต์ธรรมที่เราต่างคุ้นเคย และยังหาได้จาก youtube อีกต่างหาก!

 

นอกเหนือจากการนำนมัสการและการเทศนา  มี Hard skill อีกมากมายที่เราเห็นบ่อยๆ เช่น  ทักษะการเล่นดนตรี การสอนรวี การนำเกมเพลงสั้น การร้องการเต้น การเขียนและกำกับบทละคร การทำผัดไทและต้มไข่อีสเตอร์ การประกาศ การถ่ายรูป การตัดต่อวีดีโอ งานประดิษฐ์และงานช่าง สารพัด skill ที่เราเรียกได้ว่าเป็น “งาน” นั้นล้วนแล้วแต่เป็น Hard skill ทั้งนั้น

 

ในพระคัมภีร์เอง ก็ได้พูดถึง hard skill ที่มาจากพระเจ้าด้วย ซึ่งก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างเต้นนมัสการ โดย มีผู้ชาย 2 คนที่ได้รับพระราชทานทักษะจากพระเจ้า เพื่อให้เค้ามีความชำนาญในการทำงานช่างต่างๆ ที่จะใช้สำหรับการสร้างเต้นนัดพบ ซึ่งสองคนนั้นก็คือ  “เบซาเลลกับโอโฮลีอับ” (อพยพ 35:30-36:1)

 

 

ที่พระเจ้าประทานความสามารถแบบนั้นให้กับทั้งคนก็เพื่อที่จะให้เค้าเป็นคนที่ใช้การได้ สำหรับงานของพระองค์  แต่พอเราพูดถึงคำว่า “ใช้การได้” หลายๆ ครั้งสำหรับคริสเตียนแล้ว เราไม่ได้หมายถึงทักษะในการทำงาน แต่เป็นเรื่องของทักษะชีวิต หรือการมีคุณลักษณะที่ดีบางประการที่สามารถเสริมสร้างชีวิตของคนเหล่านั้น ให้เป็นคนที่ใช้การได้

 

 

‘คุณลักษณะส่วนบุคคลที่ดี รวมถึงทักษะทางสังคมที่ดี นั้นสำหรับโลกของการทำงานแล้วเค้าก็เรียก
คุณลักษณะเหล่านี้ว่าเป็น soft skill นั่นเอง’

 

 

 

แล้วอะไรคือ (soft skill)

คือ ทักษะทางอารมณ์และสังคม  ทักษะประเภทนี้เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นเป็นรูปธรรมแต่มีส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานลุล่วงราบรื่น ส่วนใหญ่เป็นทักษะที่ไม่มีสอนโดยตรง แต่อาศัยการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์การทำงานกหรือการรับใช้ร่วมกับผู้อื่น  อาจเกิดการขัดเกลาทางสังคม (Socialization) โดยมากเป็นทักษะที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร กระบวนการคิด ความสามารถในการเข้าใจและควบคุมตัวเอง และทักษะทางสังคม ตัวอย่างเช่น

 

  • ทักษะที่เกี่ยวกับความคิด (Thinking Skill)

    – ความคิดสร้างสรรค์ Creative Thinking (ดาวิด ซาโลมอน)
    – การคิดเชิงวิพากษ์ Critical Thinking (เปาโล)
    – การแก้ไขปัญหา Problem Solving (อาบิกายิล)
    – นอกจากนี้ยังมีอีกมากมาย เช่น การเรียบเรียงความคิด, การคิดอย่างเป็นระบบ, การคิดเชื่อมโยง, การประยุกต์, การวิเคราะห์, สังเคราะห์ (แบบที่สอบ O-net A-net นั่นแหละ)

 

  • ทักษะด้านการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Communication & Leadership Skill)

    – การสื่อสารในที่สาธารณะ (Public speaking)
    – การถ่ายทอดความคิด
    – การทำงานเป็นทีมและการทำงานร่วมกับผู้อื่นนอกทีม* (Teamwork & Co ordinating with other)
    – ภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี (Leadership)

 

  • ทักษะทางสังคม (Social Skill)
    .
    – การมีจิตใจรักการบริการ (Service orientation) หรือ (หัวใจแห่งการปรนนิบัติ Version ของคริสเตียน)
    – ความฉลาดทางอารมณ์ EQ
    – มารยาททางสังคม
    – ความสามารถในการรับรู้ความเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
    – ทักษะในการเข้าสังคม การอยู่ร่วมกับผู้อื่น

 

  • ทักษะส่วนบุคคล (Personal Skill)
    .
    – วินัยและการรู้จักบังคับตน Self Control (ตัวอย่าง ดาเนียล)
    – ความเข้าใจในความเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ
    – ความสามารถในการเข้าใจตนเอง (รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร รู้สึกอะไร อะไรเป็นจุดอ่อนจุดแข็ง)
    – ความสามารถในการเรียนรู้ได้ไว (Fast learning)
    – การทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน (Multitasking)
    – ทัศนคติที่ดี (Good attitude)
    – ความรับผิดชอบ (responsibility)
    – ความยืดหยุ่น (Flexibility) ไม่ใช่ผลัดวันประกันพรุ่งนะเออ
    – การบริการจัดการเวลา (Time Managing)
    – ความอดทน ความทุ่มเท ความละเอียดรอบคอบ

 

ทำไม Soft skill ถึงจำเป็นต่อการรับใช้?

คำตอบก็คือ …  ‘เพราะการรับใช้มีเป้าหมายสูงสุดไม่ใช่เพื่อความสำเร็จแต่เพื่อความสุขของผู้คน’

ความสำเร็จอาจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกการทำงานในโลกใบนี้ แต่ไม่ใช่กับงานรับใช้ครับ แน่นอนว่าในการรับใช้เราเองก็ต้องการให้เป้าหมายลุล่วงสำเร็จ แต่สิ่งที่เราควรห่วงใยเป็นพิเศษไม่ใช่ผลงานแต่เป็นผู้คนต่างหากเพราะงานรับใช้เป็นงานที่ต้องทำกับคน  คริสตจักรคือครอบครัว คือชุมชน ไม่ใช่ออฟฟิศ เพราะเราลาออกไม่ได้ เราต้องอยู่ร่วมกัน ทำงานด้วยกันอย่างเป็นสุขดีกว่า

 

เพราะงานรับใช้ที่ดีคือการสร้างชีวิตที่เกิดผล ไม่ใช่การสร้างผลงาน ชีวิตที่เกิดผลดี มาก่อน ผลงานที่ดี
เพราะพระเจ้าประธานของประทานทั้งสิ้น เผื่อให้เรารับใช้ซึ่งกันและกัน พระเจ้าปรารถนาให้เราอยู่ร่วมกัน ตะลันต์และของประทานต้องมีความรัก “การทำได้ตามเป้าก็อาจไม่มีค่าอะไรหากการกระทำของเราปราศจากความรัก”  (1 ดาเนียล 1-14 : ตัวอย่างซักหน่อย เรื่องของการทำงานรับใช้ ในองค์การณ์อย่างเกิดผล)

 

“เพราะจุดประสงค์ของงานรับใช้นั้น
ไม่ใช่เพื่อการสร้างผลงานที่ดีเท่านั้น…แต่เพื่อการสร้างชีวิตที่เกิดผลด้วย”

 

 

 

 

__________________________


แบบฝึกหัดการเข้าใจชาวโลก ตอนที่ 4

 

– จากที่ฟังมาทั้งหมด ชาวชูใจคิดว่า ตัวเองมี Soft Skill ในด้านไหนบ้าง?

– นอกจากที่ได้ฟังไปแล้ว คิดว่ามีคุณสมบัติไหนอีก ที่ถือว่าเป็น soft skill ของเรา และเราจะพัฒนาทักษะเหล่านั้นได้ยังไง?

 

 

 

 


#สวัสดีชาวโลก เผยแพร่วันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน ชาวชูใจสามารถกดฟัง Podcast จากชูใจทุกตอนได้ทางลิงค์นี้ >>> https://choojaiproject.podbean.com และจะกด Follow เพื่อให้ไม่พลาดรายการใหม่ๆ ด้วยนะ ^^


Previous Next

  • Author:
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)