คนต้นเรื่อง : วิจิตราอ่านโยเกิร์ตแลนด์แอนด์วิจิตราทุกตอนได้ที่ : https://www.choojaiproject.org/category/articles/life-series/yogurtland-and-vijitra/


บัลแกเรีย เป็นประเทศในยุโรปตะวันออก หลายคนคิดว่าผู้คนที่นี่ร่ำรวย  มีชีวิตแบบอู้ฟู่หรูหรา
แต่จริงๆ แล้วมันต่างจากภาพยุโรปที่วาดฝันไว้สิ้นเชิงเลยค่ะ

 

วันนี้วิจิตราขอเล่าประสบการณ์ช่วงแรกๆ ที่ได้สัมผัสกับชีวิตคนที่นี่ให้ฟังคร่าวๆ นะคะ ☺

เรามาถึงบัลแกเรียในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมันเป็นช่วงที่สวยมาก เพราะต้นไม้ทุกต้นใบเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลืองสีส้ม แต่หลังจากนั้นไม่นานพอเข้าสู่ฤดูหนาว สิ่งที่มีให้เห็นสวยๆ ในตอนแรกกลับไม่มีแล้วละจ่ะ บรรยากาศเข้าสู่ความหดหู่เพราะอากาศที่หนาวติดลบชนิดที่จะเอาแกง หมูสด หรือนมไปแช่นอกระเบียงแบบไม่ต้องกลัวบูดเลยค่า -18 องศาเซลเซียสกันเลย และกลางคืนที่นี่ก็มาเร็วคือเริ่มค่ำตั้งแต่ 4 โมงเย็น ทำให้คนไม่ค่อยออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน และมันก็ทำให้ผู้คนไม่ค่อยแจกจ่ายรอยยิ้มให้กันซักเท่าไหร่

 

อาคารในเมืองรูเซ่

ภาพอาคารในเมืองรูเซ่ มีความเก่าและสวยงามตามแบบของมัน

 

เมืองรูเซ่ (Ruse) ที่เราอยู่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของประเทศแต่มีขนาดเล็กกว่าลำพูนเกือบครึ่ง เมืองนี้มีมหาวิทยาลัย นั่นหมายความว่าเมืองนี้ก็ต้องมีวัยรุ่นเยอะถ้าเทียบกับเมืองอื่นๆ แต่เอาจริงๆ แล้วเรามักจะเจอคนแก่ซะมากกว่าเวลาที่ไปเดินรอบๆ เมือง ทำให้เราสงสัยมากก็เลยถามเพื่อนว่าทำไมเมืองนี้ไม่ค่อยมีคนหนุ่มสาวเลย   คำตอบที่ได้ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่

 

ว่ากันว่าหลังจากเรียนจบแล้วคนหนุ่มคนสาวก็จะย้ายไปอยู่เมืองที่ใหญ่กว่า อย่างเช่นเมืองหลวงแบบโซเฟีย (Sofia) หรือเมืองพล๊อฟดิฟ (Plovdiv) ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรม เพราะว่าที่นั่นหางานทำได้และที่สำคัญเงินเดือนที่ได้ก็มากกว่าทำงานในรูเซ่   ยิ่งกว่านั้นก็คือ คนบางส่วนย้ายออกไปทำงานที่ต่างประเทศเช่น อเมริกา อังกฤษ หรือเยอรมัน แน่นอนเลยว่าเค้าเหล่านั้นตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตใหม่ แต่งงานมีครอบครัวที่ต่างประเทศนั้นเลย การกลับมาบัลแกเรียของพวกเค้าจึงเป็นแค่การกลับมาเยี่ยมครอบครัวแค่นั้นเอง

 

ผู้คนในเมือง ประกอบไปด้วยผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่

ผู้คนในเมือง ประกอบไปด้วยผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่

 

จากสถิติที่ไปแอบอ่านมา ในปี 1990 จำนวนประชากรในบัลเแกเรียมี 9 ล้านคน และจำนวนลดลงทุกปี  ในปี 2015 เหลือประชากรอยู่เพียง 7.5 ล้านคนเท่านั้น ตามสถิติมีประชากรประมาณถึง 60,000 คน ย้ายถิ่นฐานไปใช้ชีวิตที่ประเทศอื่น ในปี 2012 มีหมู่บ้านสวยๆ ถูกทิ้งร้าง 24 แห่ง และมีอีกประมาณกว่า 170 แห่งที่กำลังจะถูกปล่อยทิ้งร้าง  ต่อไปก็จะเหลือเพียงแต่ผู้เฒ่าผู้แก่  ด้วยเหตุผลว่าที่หมู่บ้านนี้ไม่มีงานให้ทำ เขาจึงจำเป็นต้องย้ายเข้าเมืองเพื่อหางานให้ได้เงิน ซึ่งจริงๆ แล้วค่าแรงขั้นต่ำที่ได้มานั้นก็ไม่ได้สูงอะไรเลย

 

บรรยากาศในตัวเมืองรูเซ่ ที่ดูเงียบเหงา

บรรยากาศในตัวเมืองรูเซ่ ที่ดูเงียบเหงา

 

เรื่องน่าหดหู่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจในบัลแกเรียนับว่าค่อนข้างแย่เลยทีเดียวค่ะ

มีช่องว่างระหว่างฐานะที่กว้างมาก มีคนที่รวยสุดๆ และคนที่จนสุดๆ อยู่เกือบทุกที่เลย  บางคนแต่งตัวดีมากแต่คุ้ยขยะข้างทาง  คนไร้บ้านก็เยอะมาก  บางคนแต่งตัวไม่ได้แย่อะไรเลยนะ แต่จู่ๆ ก็วิ่งเข้ามาหาแล้วถามว่า ขอเงินหน่อยได้มั้ย บางคนก็มาบอกว่ามีเงินไม่พอที่จะต้องใช้สำหรับเดินทาง แต่พอมาที่เดิมในอีกวันนึงก็เจอคนเดิมงี้ (คือ สกิลการหลอกลวงนี่เค้าก๊อปปี้กันหรอ แบบนี้ที่เมืองไทยก็มี 555+) แต่เราเองก็เรียนรู้และเข้าใจนะคะว่า ความอยากได้เงิน มันผลักดันให้พวกเค้าเหล่านั้นต้องใช้ชีวิตเพื่อหามันมาด้วยวิธีการแปลกๆ

สิ่งนึงที่ได้เจอและน่าเศร้าใจสุดๆ สำหรับอนาคตคนจะเป็นครูอย่างเราก็คือ ชนกลุ่มน้อยที่นี่ คนโรมาหรือที่นี่เรียกว่า “คนยิปซี”   คนบัลแกเรียไม่ค่อยชอบพวกเขาเท่าไหร่ ว่ากันว่าคนเหล่านี้ชอบขโมย ไม่ทำงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งอาจจะจริงแต่คงไม่ใช่ทุกคนหรอก แต่สิ่งที่ฉีกหัวใจเรามาก (เว่อร์นะแต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ) คือครั้งนึงเราเดินลงมาจากหอพัก แล้วเจอครอบครัวยิปซีนั่งตรงข้ามกับถังขยะ พอเห็นหน้าเราปุ๊ป แม่ก็สะกิดลูกชายวัยประมาณ 7 ขวบ แล้วชี้มาที่เรา (นึกในใจว่า เห้ยยย ไม่รอดแน่ๆ ) แล้วเด็กคนนั้นก็วิ่งตรงมาหาเรา แบมือขอเงินแล้วชี้ไปที่ปากของตัวเอง ทำแบบนี้ซ้ำไปมาพร้อมพูดบางอย่างด้วยภาษาที่เราแปลไม่ได้แต่เราก็เข้าใจว่าเค้าต้องการอะไร  ในเวลาแบบนั้นเราได้แค่ทำหน้าแบ๊วๆ ใสๆ ว่า “เจ้งงจ่ะ หนูพูดอะไรคะ?” แล้วเดินผ่านไป มานึกย้อนทีหลังรู้สึกเสียดายว่าตอนนั้นเราน่าจะทำอะไรสักอย่าง แทนที่จะเดินจากมาเฉยๆ แต่สิ่งที่เราเศร้าใจที่สุดคงเป็นมุมมองความคิดที่เด็กๆ เหล่านื้มี คือเค้าคิดว่าเค้าไม่ต้องทำงานก็ได้ ไม่ต้องเรียนก็ได้ ขอทานแบบนี้ก็ง่ายดี ทัศนคติที่น่าเศร้าเหล่านี้ได้ถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ

รอยยิ้มจากคริสเตียน ยังเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นเสมอ :)

รอยยิ้มจากคริสเตียน ยังเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นเสมอ 🙂

ด้วยอากาศที่หนาว ด้วยตึกที่รูปทรงแข็งทื่อ ด้วยความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างยากและหดหู่ของคนบัลแกเรีย คนที่นี่สูบบุหรี่หนักมาก ดื่มเหล้าหนักมาก ทำให้บางครั้งเรารู้สึกเศร้าใจไปกับพวกเค้าด้วย แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชีวิตแตกต่างออกไป  นั่นก็คือออ ช้าดาาา… คริสเตียนบัลแกเรียนั่นเอง!

แน่นอนเลยว่าชีวิตของพวกเค้าไม่ได้ง่าย ซึ่งก็เหมือนกับคนทั่วไปที่ต้องเจอเรื่องเศรษฐกิจ  มีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างยาก ค่าแรงขั้นต่ำที่ต่ำมาก บางคนทำงาน 2 ที่ บางคนไม่มีงานทำ แต่เราสัมผัสได้ว่าชีวิตของพวกเค้าแตกต่างจากคนทั่วไป พวกเค้าใช้ชีวิตอย่างชื่นชมยินดี หัวเราะและยิ้มมากกว่าคนอื่นๆ (จนมีเพื่อนที่ไม่เป็นคริสเตียนที่นั่นถามว่า ก็ไม่ได้เมาซักหน่อย ทำไมถึงหัวเราะได้เยอะขนาดนี้ ) และเราก็พบคำตอบว่า ใช่แล้วสาเหตุที่ชีวิตของพวกเค้าแตกต่าง ก็เพราะว่าเค้ามีความหวังในการดำเนินชีวิต และความหวังที่ว่านั้นก็คือความหวังที่มาจากพระเยซู

สุดท้ายแล้ววิจิตราก็รู้ค่ะว่า การดำเนินชีวิตของคนในแต่ละสถานที่ ไม่ว่าที่ไหนก็ต้องเจอกับความทุกข์ยากเหมือนกันทั้งนั้น แต่การจะดำเนินชีวิตอย่างมีความหวังได้คือการรู้จักพระเยซู

คือเราจะบอกว่าเราไม่ได้ต่อสู้บนโลกแห่งความทุกข์ยากนี้เพื่อวันนึงเราจะโตและตายแค่นั้น สำหรับเราคนที่รู้จักพระเจ้าไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อวนลูป ซ้ำไปมากับชีวิตประจำวัน  แต่เราใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย  ต่อสู้ด้วยการรู้ว่ามีพระเจ้าที่อยู่กับเรา และวันนึงเราจะพบพระองค์บนสวรรค์ ที่ที่น้ำตาของเราจะถูกเช็ดและไม่มีการร้องไห้คร่ำครวญอีกต่อไป …

 

“ดู‍เถิด พระ‍เจ้าเป็นความ‍รอดของ‍ข้าพ‌เจ้า
ข้าพ‌เจ้าจะวาง‍ใจและไม่กลัว เพราะพระ‍เจ้า
ทรง‍เป็นกำ‌ลังและบท‍เพลงของข้าพ‌เจ้า …”
– อิสยาห์ 12:2

 

วันนี้คุณได้รู้จักความหวังนี้รึยังคะ ☺

ด้วยรักและโยเกิร์ต


ติดตามเรื่องราวของวิจิตราและการเดินทางแสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้าของเธอได้ใน คอลัมน์เด็กสมัยนี้  ทุกวันเสาร์ 19.30 น. ที่  Facebook: ChoojaiProject  จ้าาาาาา


Previous Next

  • Author:
  • วิจิตรา - สาวน้อยหัวใจผจญภัย กับความฝันอยากไปเมืองนอกที่ยังไม่หมดอายุของเธอ ถึงตอนนี้จะกลับมาจากบัลแกเรียแล้ว แต่ก็ยังคงเก็บตังค์เพื่อพาตัวเองออกนอกประเทศอีกครั้ง ตอนนี้เลยมาช่วยงานแปลพี่ชูใจไปก่อนเงินจะเต็มกระปุกให้ออกเดินทางงงงง
  • Illustrator:
  • Atom Pokaew
  • นักวาดภาพแนวปรัชญา นักดนตรีแนวปรัชญา ผู้รับใช้แนวปรัชญา ฯลฯแนวปรัชญา ชื่นชอบการผจญภัยไปในความคิดและการดูหนังจีนกำลังภายในเป็นชีวิตจิตใจ
  • Editor: