คนต้นเรื่อง : อ่านล่องไปกับเรือทุกตอนได้ที่ : https://www.choojaiproject.org/category/articles/life-series/journey-with-logoshope/


.

______________________________

“โอ เหล่าบุตรีแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ดิฉันขอให้เธอทั้งหลายสาบานต่อละมั่งหรือกวางตัวเมียในทุ่งว่า
พวกเธอจะไม่เร้าหรือจะไม่ปลุกความรักให้ตื่น จนกว่าความรักจะจุใจแล้ว“
เพลงซาโลมอน 3: 5

____________________________

ความรักสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ ทุกเมื่อ และทุกเวลา แม้กระทั่งในเรือโลโกสโฮป ฉันคิดว่า เรือลำนี้เป็นสถานที่ที่บรรทุกชายหญิงวัยรุ่น วัยฉกรรจ์ไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเมื่อหนุ่มสาวไฟแรง รักพระเจ้า ต้องการรับใช้พระเจ้าเหมือนกัน มารวมตัวกันในเรือลำนี้ ที่นี่จึงเหมือนเป็นแหล่งเลือกคู่ครองดีๆ นี่เอง แต่ด้วยความที่เราต้องปฏิบัติพันธกิจบนเรือเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน ดังนั้นขณะที่อยู่บนเรือ เมื่อความรักมันสะป๊าคคคขึ้นมา จู่ๆ เราจะมาเดินจับมือถือแขน นั่งมองตากับหนุ่มคนนั้น หรือสาวคนนี้อย่างหน้าตาเฉยไม่ได้ หรือทำตัวเหมือนกับว่า โลกนี้มีเพียงสองเรา งี้ก็ไม่ได้ จะต้องมีหลักปฏิบัติให้ทำตามกันบ้างเพื่อความสงบสุขเรียบร้อยโดยรวมค่ะ

ดังนั้นการจะมีคู่เดทในเรือได้ ต้องรู้จัก SP ก่อน SP ย่อมาจาก Social Policy เป็นกฏสำหรับเริ่มความสัมพันธ์แบบโรแมนติก หรือ ความสัมพันธ์ขั้นพิเศษกับเพศตรงข้าม

กฏเหล็กข้อหนึ่งของเรือโลโกสโฮป (ซึ่งเป็นพันธกิจหนึ่งในเครือขององค์กร Operation Mobilisation หรือเรียกสั้นๆ ว่า OM) ก็คือ ไม่ว่าคุณจะรับใช้หรือเป็นอาสาสมัครจากที่ไหนก็ตาม ในปีแรกของการรับใช้ ห้ามเดท! ใช่จ้า หนึ่งปีเต็มที่หนุ่มสาวในเรือต้องรอคอยการออกเดทกับคนที่ตกหลุมรัก เหตุผลก็เพราะว่า ผู้นำในเรืออยากให้ลูกเรือทุ่มเทกับพันธกิจและเรียนรู้ชีวิตในเรือให้มากเท่าที่จะทำได้ก่อน และอยากให้มองลูกเรือด้วยกันเสมือนเป็นพี่เป็นน้องกันมากกว่าจะมุ่งมองหาคู่ชีวิตในอนาคตค่ะ

อ่าว แล้วทำอะไรได้มั้งอ่ะ หลายคนอาจจะสงสัย…

ก็ทำตัวปกติธรรมดาค่ะ ใช้ชีวิตของเราตามปกติ รับใช้พระเจ้าไป ทำงานไป คุยกับเพื่อนหลากหลายวัฒนธรรมไป สังเกตพฤติกรรมของกันและกันไป ถ้ารู้สึกว่าถูกใจหรือประทับใจใคร อยากคุยกับเขาจัง ก็ไปนั่งร่วมคุยในวงเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ อยากออกไปข้างนอกกับเขาจัง ก็ออกไปด้วยกันในกลุ่มใหญ่ๆ อธิษฐานขอพระเจ้าช่วยให้ควบคุมตัวเองได้ อาจจะหาพี่เลี้ยง หรือ เพื่อนไว้ให้คำปรึกษาและให้เขาช่วย เผื่อเราจะทำอะไรแปลกๆ เว่อร์ๆ โจ่งแจ้งเกินไป และที่สำคัญที่สุด โฟกัสที่พระเจ้าและงานรับใช้ให้มากที่สุด เพราะฉันรู้ว่า เมื่อใจมันชอบใครเนี่ยะ สายตามันก็จะคอยสอดส่อง คอยดูว่า “เธออยู่ไหนนนนนนน ฉันอยู่นี่” อยากจะเดิน อยากจะดอดเข้าไปหาเหลื้ออออเกินนน อธิษฐานอย่างขะมักเขม้นในเรื่องนี้จึงสำคัญมากค่ะ

จากนั้นเมื่อผ่านไป “หนึ่งปี” หากความรู้สึกพิเศษและความชอบยังก่อตัวขึ้นไม่จางหายไป มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ คุณผู้ชายคะ เริ่มปฏิบัติการค่ะ! ย้ำนะคะ ผู้ชายจะต้องเป็นฝ่ายเข้ามาปรึกษากับแผนกบุคคลที่ดูแลเขา เพื่อขออนุญาตออกเดทกับฝ่ายหญิงค่ะ!

ส่วนผู้หญิงเรานิ่งไว้ค่ะ นิ่งไว้ แล้วจากนั้นฝ่ายบุคคลก็จะดำเนินการคุยกับฝ่ายหญิง ถามไถ่ เป็นสื่อกลางให้ และถ้าหากฝ่ายหญิง โอเค เซย์เยส ตกลงปลงใจคบหากัน ฝ่ายบุคคลในเรือก็จะต้องแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่สาขา OM ของประเทศที่ชายและหญิงคู่นั้นสังกัด ถ้าเขาอนุมัติ ฝ่ายบุคคลในเรือจึงจะอนุญาตให้คบกันได้ ถ้าเขาไม่อนุมัติ เรื่องก็ตกไป ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ต้องไฟท์กับ OM ประเทศของตนเองอีกที บางที่อาจถึงขั้นต้องแจ้งครอบครัวและคริสตจักรสังกัดด้วย!

การจะแอบคบกันในเรือจึงทำไม่ได้เด็ดขาดค่ะ ต้องเข้าตามตรอก ออกตามประตู


จากนั้น เมื่อผ่านทุกทางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสาวเจ้าตอบตกลง ฝ่ายบุคคลเห็นด้วย OM ต้นสังกัดไม่มีปัญหาและโบสถ์ก็เห็นชอบ ฝ่ายบุคคลก็จะประกาศให้ลูกเรือทุกคนในเรือทราบ โดยการ “ติดป้ายบนบอร์ด” ในห้องพักผ่อนของคนบนเรือเพื่อแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน เพราะผู้หญิงบางคนอาจจะเป็นที่หมายปองของหลายหนุ่ม และหนุ่มบางคนก็เป็นที่หมายปองของสาวหลายคนเช่นกัน ดังนั้น ถ้าลูกเรืออยากอัพเดทว่า ใครเป็นแฟนใคร ใครเดทกับใคร ก็เดินขึ้นมาดูบอร์ดนี้ ความกระจ่างก็จะบังเกิดค่ะ

ยังค่ะ ยังไม่จบ! อย่าคิดว่าแค่ได้ออกเดท กฏต่างๆ จะหมดเพียงเท่านี้ ระหว่างนั้นฝ่ายบุคคลจะมี “คู่มือแนะนำการออกเดท” ให้เพื่อช่วยทั้งคู่รักษาความสัมพันธ์ซึ่งก่อขึ้นบนเรือนั้นให้แข็งแรงมากขึ้นด้วยค่ะ ในคู่มือจะแนะนำให้เรามีพี่เลี้ยงไว้ปรึกษาซึ่งมักจะเป็นคู่ที่แต่งงานแล้ว ทั้งยังมีกฏห้องพัก สถานที่ที่ควรพบ หรือ การประพฤติปฏิบัติตัวต่อกันและกันในที่สาธารณะ เป็นต้น ซึ่งจุดนี้ ทีน่าไม่สามารถบอกได้ว่ารายละเอียดส่วนลึกของคู่มือมันเป็นยังไง มีเพิ่มเติมส่วนไหนอีก เพราะดิฉันก็ยังไปไม่ถึงขั้นตอนนะค่ะ! T_T ตลอดเวลา 3 ปีที่ฉันอยู่บนเรือลำนี้มา มันก็มีบ้างนะคะที่จะสะป๊าคคค แต่ก็… “นก” ตามระเบียบ!

แล้วถ้าภายใน 1 ปีที่ต้องเก็บอาการนั้น ดันเก็บไม่อยู่ และทำผิดกฏขึ้นมาล่ะ จะเป็นยังไง
ในกรณีนี้ ฝ่ายบุคคลเขาจะเรียกว่า Breaking SP (แหกฏ) ค่ะ โดยจะมีพฤติกรรมเข้าข่ายคร่าวๆ ดังนี้
– มีเจตนา ชัดเจนที่อยากจะอยู่ด้วยกันสองต่อสองในที่ลับตาคน
– มีเจตนาและตั้งใจที่จะใช้เวลาด้วยกันสองต่อสอง หรือแม้จะอยู่ในกลุ่มก็จะคุยกันอยู่สองคน
– การกระทำและความประพฤติแสดงอย่างชัดเจนเพื่อเรียกความสนใจหรือเพื่อแสดงให้อีกคนเห็นว่า ฉันสนใจเธอมาก เช่นตั้งหน้าตั้งตาคุยกับคนนั้นเพียงคนเดียว หรือ โทรศัพท์เรียกให้มาคุยกัน เป็นต้น
– มีการวางแผนอย่างชัดเจนที่จะใช้เวลาว่างด้วยกันสองคน หรือเป็นกลุ่มเพื่อนก๊วนเดียวกัน หรือ ตั้งใจจัดงานอีเว้นท์เพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน เหล่านี้เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถ้าคนอื่นพบเห็น หรือ สังเกตเห็น เขาก็สามารถรายงานกับฝ่ายบุคคลได้ว่า มีคู่กำลัง Breaking SP นะ! แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ???


เมื่อทราบเรื่อง ฝ่ายบุคคลก็จะเรียกคู่ที่ทำผิดกฏเข้าพบโคยจะตักเตือนก่อน 2 ครั้ง แต่หากยังลักลอบทำผิดอีก หรือมีคนพบว่าทำผิดครั้งที่ 3 ก็จะถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกัน 1 เดือน ห้ามคุยกัน ห้ามนั่งด้วยกัน ห้ามมองหน้ากัน ห้าม! ครั้งที่ 3 นี้ หัวหน้าแผนกที่ฝ่ายชายและหญิงทำงานอยู่รวมถึง OM ที่เราสังกัดก็จะรับทราบ แล้วถ้าใจมันร้อน สมองไม่สั่งการละ ห้ามคุย 1 เดือน มันไม่ไหว ไม่แคร์สื่อใดๆ ยังลักลอบคุยกัน ระยะของการห้ามคุยก็จะยาวนานขึ้นไปอีก และอาจจะมีผลอื่นๆ ตามมาด้วย จนอาจจะถึงขั้นส่งกลับบ้านก็เป็นได้ค่ะ

พออ่านแล้วหลายๆ คนอาจจะแอบคิดว่า เฮ้อออ กว่าจะรักกันได้นี่มันยุ่งยากเน๊าะ

ใช่ค่ะ กว่าจะรักกันอย่างถูกต้องมันก็ยากลำบากอยู่ แต่ก็อย่างที่ กษัตริย์ซาโลมอนกล่าวไว้ในเพลงซาโลมอนว่า
“โอ เหล่าบุตรีแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ดิฉันขอให้เธอทั้งหลายสาบานต่อละมั่งหรือกวางตัวเมียในทุ่งว่า พวกเธอจะไม่เร้าหรือจะไม่ปลุกความรักให้ตื่น จนกว่าความรักจะจุใจแล้ว” และข้อพระคัมภีร์ใน 1โครินธ์ 3:4 ก็ช่วยย้ำเราอีกแรงว่า

ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้…”

กฏและข้อปฏิบัติต่างๆ ที่ว่ามาอาจจะดูเข้มงวด แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยคัดกรองความรู้สึกได้อย่างดีทีเดียวค่ะ ทีน่าเชื่อว่า ความรักแท้นั้นต้องอดทนได้ค่ะ และที่สำคัญความรักที่แท้จริงนั้นต้องมาจากการเลือกที่ใช้สติและปัญญาเข้ามาประกอบด้วย อย่าใช้ใจสั่งมาเพียงอย่างเดียว เพราะในความเป็นจริงแล้วเราเชื่อใจ หรือความรู้สึกของเราเองที่มีความแปรปรวนรวนเรสูงเพียงอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ

.

ตอนต่อไปมาดูกันค่ะว่า แล้วจะมีคู่ไหนที่อยู่ถึงตลอดรอดฝั่งบ้าง เดี๋ยวจะยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟังกัน คอยติดตามนะคะ

.

ทีน่า


Previous Next

  • Author:
  • ทีน่า : สาวผู้ใฝ่ฝันจะเดินทางรอบโลก แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อพระเจ้านำเธอให้พบเจอกับเรือ 'โลโกสโฮป' เรือแห่งความหวังที่จะนำพาเธอไปผจญโลกกว้างโดยไม่ต้องเป็นเมียทูตแต่อย่างใด
  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Editor:
  • Jick
  • บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง
  • Editor:
  • Namita
  • สาวน้อยล่ามญี่ปุ่น ผู้เอ็นจอยกับการกินไปลดน้ำหนักไป เธอผู้มีความคาวาอี้อยู่ตลอดเวลายังมีความสามารถในการเรียบเรียงงานเขียนได้เป็นเลิศอีกด้วย