EP. 2 [Depression the Series]

6 วิธีขจัดใจไม่ขอบพระคุณ


ผู้เขียน Stacy Reaoch
ต้นฉบับ Depressed and Thankful


นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีภาวะซึมเศร้าแบบอ่อนๆ หลังจากแต่งงานไปได้หนึ่งปีเท่านั้น ซึ่งมันน่าประหลาดใจมาก เพราะฉันพึ่งได้แต่งงานกับผู้ชายในฝัน พึ่งได้งานทำ ได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่และกำลังสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ และไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไรที่สภาพจิตใจของฉันกลับเริ่มดิ่งลงเหว ฉันรู้สึกอยากจะนอนจมอยู่บนเตียงทั้งวันเพราะรู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าจะใช้ชีวิตประจำวันได้

 

ความเศร้านี้ปกคลุมอยู่ในใจของฉันอย่างต่อเนื่องจนต้องไปพบจิตแพทย์ แต่แทนที่หมอจะรีบจ่ายยาให้กินและกลับบ้านไป เขากลับนั่งฟังฉันพูดช่วงชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเพิ่งเรียนจบ ย้ายออกจากครอบครัว แต่งงาน จนได้งานทำ หมอบอกว่าสภาพอารมณ์เหวี่ยงขึ้นลงรุนแรงเป็นเรื่องปกติเพราะความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นในชีวิตของฉันในช่วงปีที่ผ่านมา

 

ในที่สุด เมฆหมอกแห่งความเศร้าเริ่มคลายตัวออกไป แต่ก็ยังมีอีกหลายครั้งในช่วงวัยทำงานที่มันกลับมาเป็นพักๆ สภาวะซึมเศร้าทำให้ฉันโฟกัสอยู่แต่สิ่งที่ตัวเองขาด นอกจากยาที่เป็นตัวช่วยให้ใครหลายๆ คนผ่านพ้นช่วงนี้มาได้ อาวุธอีกอย่างที่ฉันค้นพบในการต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า หรือแม้แต่คนปกติก็สามารถทำได้ นั่นคือ การมีใจขอบพระคุณ

 

“การนมัสการนั้นเติบโตขึ้นจากจิตใจที่ขอบพระคุณ”

.

จากหนังสือ “เลือกมีใจขอบพระคุณ” ของ Nancy DeMoss Wolgemuth ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่าถ้าเราไม่บ่น เราก็กำลังนมัสการพระเจ้าแล้ว เพราะโดยธรรมชาติบาปของเรามักจะโน้มนำให้เราเห็นแต่สิ่งที่เราบกพร่อง ยังขาดอยู่ หรือความผิดในชีวิตของเรา

 

ฉันมักจะตอบสนองด้วยการบ่นอย่างอัตโนมัติ อย่างวันก่อนที่ฉันสังเกตตัวเองว่า ถึงแม้วันนั้นจะดีสักแค่ไหนก็ตาม แต่ทันทีที่สามีเดินเข้าบ้านมาหลังเลิกงาน ฉันก็จะบ่นเรื่องลูกๆ ทะเลาะกันหลังเลิกเรียน ไหนจะลูกชายคนเล็กที่ดันมาอึใส่กางเกง แล้วก็ไม่ลืมที่จะบ่นเรื่องตู้เย็นที่ติดๆ ดับๆ ด้วย

หลายครั้งสิ่งที่เราพูดพร่ำใส่คนอื่นก็มักเป็นการบ่นเรื่องต่างๆ ที่ไม่ได้ดั่งใจ หรือเรื่องที่คนอื่นทำไม่ดีกับเรา เราอยู่ในวัฒนธรรมที่เอะอะอะไรก็เรียกร้องสิทธิ์ และถ้าเราไม่ได้ในสิ่งที่เราคิดว่าเป็นสิทธิ์ของเรา เราก็จะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หลายครั้งที่บาปเล็กๆ น้อยๆ ของการเรียกร้องสิทธิ์และความไม่พอใจนำไปสู่สภาวะวิตกกังวลและความหดหู่ทางใจได้ด้วย เราจะกลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความคิดด้านมืดและความคาดหวังที่ไม่สมหวังจะถ่วงจิตใจของเราให้หนักอึ้งและขุ่นเคือง

 

ในทางกลับกัน เราจะไม่มีวันยกใจของเราออกจากความสิ้นหวังมาเป็นการนมัสการพระเจ้าอันปราศจากการแสดงถึงใจขอบพระคุณต่อพระเจ้าได้ ในพระคัมภีร์ทั้งเล่มล้วนแต่เป็นเรื่องการขอบพระคุณ ในพระธรรมสดุดีเราได้รับคำสั่งให้ขอบพระคุณพระเจ้า ดังนี้

 

จง​ขอบ‍พระ‍คุณ​พระ‍ยาห์‌เวห์
จง​ร้อง‍ออก‍พระ‍นาม​พระ‍องค์จง​ประ‌กาศ​บรร‌ดา​กิจ‍การ​ของ​พระ‍องค์​แก่​ชน‍ชาติ​ทั้ง‍หลาย
(สดุดี 105:1)

 

ให้​เขา‍ทั้ง‍หลาย​ขอบ‍พระ‍คุณ​พระ‍ยาห์‌เวห์ เพราะ​ความ​รัก​มั่น‍คง​ของ​พระ‍องค์
เพราะ​การ​อัศ‌จรรย์​ต่างๆ ของ​พระ‍องค์​ที่​มี​ต่อ​มนุษย์​ทั้ง‍หลาย (สดุดี 107:8)

 

พระธรรมโคโลสีก็เป็นเรื่องการขอบพระคุณ ในโคโลสี 3:14–17 อ.เปาโลกล่าวขอบคุณพระเจ้าถึง 3 ครั้ง หนึ่งในนั้น คือ  “และ​จง​ให้​สันติสุข​ของ​พระคริสต์​นำ​พา​จิตใจ​ของ​ท่าน​ทั้งหลาย พระเจ้า​ทรง​เรียก​ท่าน​ให้​มา​เป็น​กาย​เดียวกัน​ก็​เพื่อ​สันติสุข​นี้ และ​จง​มี​ใจ​ขอบพระคุณ” (โคโลสี 3:15) เช่นเดียวกับ 1 เธสะโลนิกา 5:18 ที่เตือนให้เราตระหนักว่า “นี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าให้เราขอบพระคุณในทุกกรณี”

 

6 วิธีขจัดใจไม่ขอบพระคุณ

พระเจ้าทรงเรียกให้เราเป็นคนที่เปี่ยมด้วยการขอบพระคุณ และใจที่ขอบพระคุณนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราจากภายในสู่ภายนอกได้ แต่หากคุณยังคงเดินอยู่ในหนทางที่มืดมนของความเศร้าซึมและสิ้นหวัง นี่คือ 6 วิธีง่ายๆ ที่สามารถใช้ต่อสู้เพื่อจะมีความชื่นชมยินดีอันเกิดจากใจที่ซาบซึ้งในพระคุณ

 

1. ใส่ความจริงจากพระวจนะของพระเจ้าลงในความคิดของเรา

ให้ใคร่ครวญข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวกับการขอบพระคุณ อย่างเช่น โคโลสี 3:15-17 ตั้งใจที่จะท่องจำคำสั่งของพระเจ้าที่ให้เรามีใจขอบพระคุณ

 

2. จดจำความดีงามและความสัตย์ซื่อของพระเจ้าที่มีต่อเรา

เช่นเดียวกับชาวอิสราเอลที่มักจะหลงลืมสิ่งที่พระเจ้าทำเพื่อพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร เราก็เองก็หลงลืมได้เช่นกัน การฝึกวินัยเพิ่มความจำผ่านทางการบันทึกพระพรของพระเจ้าหรือเล่าพระพรให้ผู้อื่นฟังก็เป็นกระตุ้นใจขอบพระคุณของเราให้มากยิ่งขึ้น

 

3. ขอให้พระเจ้าควบคุมคำพูดของคุณ

แทนที่จะระบายความหงุดหงิดในแต่ละวันของคุณออกมา ให้ลองมองหาเหตุผลที่จะชื่นชมยินดีแทน เพราะทัศนคติแห่งการขอบพระคุณนั้นติดต่อกันได้ง่ายพอๆ กับวิญญาณแห่งการบ่น ให้เราขวนขวายที่จะได้ชื่อว่าเป็นคนที่ร่าเริงเต็มไปด้วยพระวิญญาณ ดีกว่าได้ชื่อว่าเป็นคนขี้วีน ขี้โมโหนะ  

 

4. ตั้งใจทำให้การขอบพระคุณเป็นการตอบสนองโดยอัตโนมัติในสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิต

เวลาที่คุณรับรู้เรื่องต่างๆ เป็นครั้งแรก ให้คุณถามตัวเองว่า มีอะไรที่ฉันจะขอบคุณพระเจ้าในสถานการณ์นี้ได้บ้าง? ฉันจำได้ว่ามีครอบครัวหนึ่ง เมื่อรู้ข่าวว่าลูกสาวของพวกเขาเสียชีวิตจากไปอย่างกะทันหัน ทั้งครอบครัวกอดกันอธิษฐานร่ำไห้ คนเป็นพ่อก็ขอบพระคุณพระเจ้าเป็นอันดับแรกสำหรับช่วงเวลาที่พวกเขาได้ใช้ชีวิตร่วมกันกับลูกสาวคนนี้  ช่างเป็นตัวอย่างแห่งการขอบพระคุณที่ยอดเยี่ยมแม้ในช่วงเวลาแห่งการสูญเสียอันหนักหนาสาหัสเช่นนี้

 

5. ขอบคุณพระเจ้าออกมาเป็นคำพูด

เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปสู้เส้นทางแห่งความเศร้าซึม ลองเขียนสิ่งที่อยากจะขอบพระคุณพระเจ้าออกมา 5 อย่าง อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ขอบคุณพระเจ้าสำหรับกาแฟร้อนๆ ในวันที่อากาศหนาว หรือขอบคุณพระเจ้าสำหรับดอกไม้บานนอกหน้าต่าง เป็นต้น  การจดบันทึกพระพรจากพระเจ้าในแต่ละวันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของฉันมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้   

เมื่อคุณขอบพระคุณออกมาเป็นถ้อยคำ ไม่ว่าจะด้วยการพูด หรือ การเขียน สิ่งนามธรรมเช่นการขอบพระคุณนี้ก็จะเป็นรูปธรรมได้มากขึ้น

 

6. ให้มองหาหลักฐานที่ทำให้เห็นถึงพระคุณของพระเจ้าอย่างชัดเจน

ลองค้นหาพระคุณของพระเจ้าในชีวิตของคุณและจากชีวิตของผู้อื่นที่อยู่รอบตัวคุณ ความเชื่อของฉันมั่นคงขึ้นเมื่อฉันเห็นพระเจ้าตอบคำอธิษฐาน เมื่อฉันเห็นผลของการอดทนเวลาที่ฉันไม่มัวแต่คร่ำครวญถึงอดีต หรือคำอธิษฐานที่รอคอยมานานของเพื่อนฉันที่อยากเป็นแม่คนได้กลายเป็นจริงผ่านการรับบุตรบุญธรรม   การตั้งใจเฝ้าดูพระเจ้าทำงานทำให้ฉันมีสิ่งที่อยากจะขอบพระคุณมากมายจริงๆ

 


แสงแห่งความหวังมีเสมอแม้ในเงาของความเศร้า  ติดตามบทความทั้งหมดในซีรีส์คริสเตียนกับโรคซึมเศร้า Depression the Series ได้ทางลิงค์นี้นะคะ >> https://www.choojaiproject.org/category/articles/psychology/depression-the-series/


Previous Next

  • Translator:
  • Por Paula
  • พอลล่า รักเด็กและหน้าก็เด็ก บุคลิกร่าเริงสดใสวัยรุ่นชอบ จึงคร่ำหวอดในงานพันธกิจวัยรุ่น ชอบเดินทางเน้นกินและถ่ายรูป มีความสามารถทั้งการเขียน การแปล เห็นงานชูใจเลยคันไม้คันมืออยากมาร่วมแจมกัน!
  • Illustrator:
  • ลาเบย (Labiere)
  • จับงานวาดมาตั้งแต่มัธยม จบออกแบบมาก็ยังวาดไม่ยั้ง ยังอยู่ร่วมกันในแวดวงงานรับใช้ไม่เคยหาย พร้อมๆกับความฝันในงานมิชชั่นนารี
  • Editor:
  • Gade Rammasoon
  • จากแฟนคลับชูใจ พลิกผันมาเป็น Editor เรียบเรียงคำแปลในทีมชูใจ เธอผู้นี้ถวายตัวรับใช้พระเจ้ากับ YWAM มีทั้งงานแปล งานสอน และเต้นรำเพื่อการนมัสการ! ภารกิจรัดตัวแต่ก็ยังอาสามาช่วยชูใจน้องๆ กัน
  • Editor:
  • Jick
  • บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง