EP.2 (Season 2)

ขึ้นลงๆ ชีวิตมันก็แบบนี้… (EP. 2 Season 2)


Apr 14,

.

เข้าสู่ภาวะการหางาน

แค่คิดก็ทำให้เราท้อยังไงไม่รู้

รู้สึกว่าชีวิตที่นี่มันคือของจริง

ไม่สบายและมีความช่วยเหลือจากรอบข้างพร้อมอยู่ตลอด

และไม่มีมือจากรอบข้างคอยหนุนหลัง

ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่ายังมีครอบครัวและเพื่อนอยู่เสมอ

แต่ความห่างไกลทำให้เราโดดเดี่ยวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

 

ความคิดเริ่มปั่นป่วนอีกครั้ง

จะต้องเดินออกไปหางาน

มันยากสำหรับเราจริงๆ ที่จะเดินเข้าไป แล้วเอ่ยปากถาม

ที่จะต้องริเริ่มทำอะไรทั้งๆ ที่ไม่ชอบ

มันทำให้เราอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

แต่ถ้าไม่มีงาน ก็ไม่มีเงินใช้

จะใช้เงินเก็บไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็ไม่ได้

แถมมาถึงนี่แล้ว ก็ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์

เฮ้อออออออ!

วันนี้ต้องลากตัวเองออกไป ทั้งๆ ที่ใจไม่อยากเลยจริงๆ

 

_______________

 

Apr 24

.

ผ่านไปกว่าอาทิตย์ที่คอยไปหางาน

สุดท้ายไปกินร้านอาหารไทยตรงข้ามบ้าน

เอาวะ ลองถามๆ ไปเหอะ

ได้งานซะนี่!

.

โอ้โหหหห นั่งรถออกไปหางานตั้งไกล

แต่กลับได้งานตรงข้ามบ้าน ที่สะดวกสบายไม่ต้องเดินทาง

ไม่ต้องเสียค่ารถบัสอีกแน่ะ

ในเวลาที่เรามองเห็นแต่ปัญหาและความยากลำบาก

พระหัตถ์ของพระเจ้าก็ยังคอยรองรับและมีสิ่งดีให้กับเราเสมอเนอะ

ไม่รู้ว่างานนี้จะเป็นยังไง

ซักวันคงต้องเปลี่ยน เพราะเราก็อยากมีประสบการณ์กับคนท้องถิ่นมากกว่า

แต่อย่างน้อยก็ได้งานแล้ว

และได้รู้ว่าพระเจ้าทรงฟังเสียงเราเสมอ

 

 

_______________

May 19

.

รู้สึกเหงาและเบื่ออย่างบอกไม่ถูก

อะไรที่เคยมี ที่เคยทำ ก็ไม่มีและไม่ได้ทำแล้ว

อยู่ที่ไทยเคยได้เล่นดนตรี ได้ใช้เวลากับเพื่อน

ออกไปขับรถเล่นเวลาเครียด

ทุกอย่างที่เราเคยทำเพื่อคลายเครียด

ตอนนี้พึ่งรู้ว่ามันสำคัญขนาดไหน

พออยู่ที่นี่ เหมือนไม่มีที่ระบาย

มีแต่ความกดดันมากขึ้น อัดๆ เข้ามาจนไม่มีทางออก

สะสมไปทุกวัน ทำให้เราจมอยู่กับตัวเองมากขึ้น

ไม่เข้าใจว่าเราเป็นอะไร และต้องแก้ไขยังไง

T_T

 

_______________

 

June 13

.

ในที่สุดก็ได้ออกมาปลดปล่อยความเบื่อ

ออกไปเที่ยวกับเพื่อนในคลาส สนุกสนานสุดๆ !!!

รู้สึกดีใจที่ได้ผ่อนคลายซะที

.

แต่พอกลับเข้ามากินข้าวเย็นในเมือง

ขณะที่กำลังจะจ่ายเงิน ปรากฎว่า….

หากระเป๋าไม่เจอ!!!!!

อ้าววว กระเป๋าไปไหนวะ!

นึกย้อนกลับไป ตายแล๊วววว!!!

น่าจะหายแน่ๆ

รีบนั่งเรือข้ามฟากกลับไปเดินดู (เข้ายังให้ข้ามฟรีเพราะไปหาของหาย)

ไม่เจอออออ!!!

.

ความรู้สึกคืออยากด่าตัวเองมาก

อยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออกเพราะยังต้องคอยตามหากระเป๋า

สุดท้ายก็ไม่เจอ ต้องแบกความรู้สึกอึนๆ กลับบ้านแทน

 

 

ลาก่อน….

กระเป๋าที่อุตส่าห์ซื้อมากจากดิสนี่ย์

กล้องฟิล์มพร้อมความทรงจำในนั้น

สมุดบันทึกคืออออ เป็นของหวงมากนะนั่น มีความทรงจำเพียบ

รวมถึงสมุดเจ้าปัญหา คือพาสปอร์ตของช้านน ไปแล้วจ้า

โอ้ยยยย ฮืออออออ

 

_______________

 

Jul 17

.

หลังจากไปแจ้งตำรวจ และรอสองอาทิตย์

ก็ยังคงไม่เจอกระเป๋า ต้องบินมาทำพาสปอร์ตใหม่อีกเมืองหนึ่งที่ชื่อเวลลิงตัน

ก็ดีนะ ได้ใช้เวลาเงียบๆ เพื่อคิดใคร่ครวญสิ่งที่ผ่านไป ทบทวนตัวเอง

เราได้รู้แล้วว่า

ความสนุกสนานก็เป็นสิ่งดีต่อชีวิตนะ

เราเครียดเราก็ต้องระบายออกเป็นเรื่องธรรมดา

แต่ความสนุกสนานที่ขาดสติ โดยเฉพาะเรื่องสนุกสนานที่ไม่ใช่ปัญญาจากพระเจ้า

เพราะนั่นอาจพาเราเข้าสู่ปัญหาได้

 

 

ตอนนี้เราคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากเรียนรู้จากมัน

เติบโตขึ้นและตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีขึ้น

อีกหนึ่งก้าวกับพระเจ้าในวันนี้ ที่ลูกได้ขยายความเป็นตัวเองออกไป


(ติดตามอ่าน New Me in New Zealand ภาค2 ตอนต่อไปได้
ในวันพุธที่ 3 ตุลาคม 2561 ทางเว็บไซด์ www.choojaiproject.org หรือ
กดติดตามทางเพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/choojaiproject/)


Previous Next

  • Author:
  • หนึ่งในทีมผู้แปลชูใจ ผู้สืบทอดกิจการสายไหมของครอบครัว จบศึกษาอิงค์ แต่ไม่ได้อยากเป็นครูในระบบ มีความมุ่งมั่นที่จะตามหาฝันไปไกลถึงเมืองที่มีแกะมากกว่าประชากรในประเทศ
  • Illustrator:
  • tumtim
  • เด็กสาววัยรุ่นพึ่งจบจิตวิทยามาหมาดๆ แต่มุ่งมั่นตั้งใจจะทำงานสายกราฟิก เธอผู้ยังหาค้นหาตัวเองคนนี้มีความสามารถมากมายที่ตัวเองไม่มั่นใจอยู่ตลอดเวลา เลยเจอพี่ชูใจจับมาใช้งานให้มั่นใจซักทีว่าตัวเองมีของ
  • Editor:
  • Jick
  • บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง