ฉันผอมลงเพราะพระเจ้า...บทสรุปเรื่องราวการลดความอ้วนของอิเชอ

EP. 4/4

ฉันผอมลงเพราะพระเจ้า…บทสรุปเรื่องราวการลดความอ้วนของอิเชอ [ลดความอ้วนไดอารี่ 4/4]


เรื่องราวต่อไปนี้ดัดแปลงมาจาก blog ส่วนตัวของเด็กต้นเรื่องและเรียบเรียงขึ้นใหม่โดยพยายามรักษารูปแบบดั้งเดิมเอาไว้ อาจมีภาพ ภาษา และวิธีการสื่อสารไม่เป็นทางการมากนัก

 


 

*ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหนร่างกายของเชอก็ไม่ตอบสนองต่อการออกกำลังกายและการคุมอาหารอย่างที่ควรจนเชอถอดใจ เชอเริ่มจริงจังกับชีวิตด้านอื่นมาขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของจิตวิญญาณ และต่อไปนี้คือบทสรุปของการลดความอ้วนที่ไม่ได้เกี่ยวกับร่างกายอีกต่อไปแต่เกี่ยวกับความสัมพันธ์พระเจ้า… อ่านแล้วอาจจะงงในงงแต่มันเป็นความจริง

 

 

เห็นชื่อเรื่องแล้ว อาจจะงง หรือคิดว่าเชอเล่นไสยศาสตร์หรือเป็นบ้ารึเปล่า

วันนี้ เชอตัดสินใจที่จะแชร์ อีกมุมมอง” หนึ่ง
ที่น้อยคนนักที่รู้ เกี่ยวกับการดิ้นรนจากผลข้างเคียงของ
ยาลดความอ้วน” ที่เชอกินมา 6 ปี

.

.

คนที่ติดตามเชอมา ก็จะรู้ว่าเชอพูดเรื่องนี้บ่อยอยู่แล้ว เนื่องจากมีคนใหม่ๆ เพื่อนใหม่

คอยแวะเวียนเข้ามาถามเชอเรื่อยๆ ถึงการรักษา ถึงการใช้ชีวิต

[ใครที่ยังไม่รู้ Story เชอ อ่านได้จาก Blog นี้ค่ะ http://www.cherriiecherry.com/2017/04/update-4.html]

 

____________________________________________

 

เอาล่ะ เข้าเรื่อง…

เพื่อนๆ จะรู้ว่า เชอเป็นคริสเตียนค่ะ รับเชื่อตั้งแต่ ม.4 ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว
ตั้งแต่ตัดสินใจเป็นคริสเตียน ชีวิตก็เปลี่ยนไปมาก
จากที่เคยหลงผิด ชีวิตดำดิ่งจนต่ำสุด รู้สึกไร้ที่พึ่ง
แต่พระเจ้าก็เปิดหนทางสว่างให้และมันเปลี่ยนชีวิตเชอไปตลอดกาล

แต่ขั้นตอนระหว่างทางมันก็ใช่ว่าทุกอย่างจะสวยหรูทุกอย่างสบายไปหมด.. 
ไม่ใช่แบบนั้น

เชอเจอกับความท้าทาย อุปสรรค หลายอย่างมากมาย
รวมทั้งเคย “หลงทาง” กลับไปใช้ชีวิตเหลวไหลมาหลายต่อหลายครั้ง
ติดนิสัยวัตถุนิยม ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก กินดื่มเมามาย เที่ยวผับสารพัด
กลายเป็นคนอารมณ์ร้ายรุนแรง
ไม่ค่อยติดสนิทกับพระเจ้า เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายกลับไปกลับมาหลายครั้ง

 

https://www.instagram.com/p/rPmgLuA1_g/?utm_source=ig_web_button_share_sheet

 

ด้วยความที่เราให้ความสำคัญกับวัตถุ และรูปลักษณ์ภายนอกเนี่ยแหละ ทำให้เราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกินยาอดความอ้วน เพราะอยากสวยอยากดูดี ซึ่งมันก็ช่วยให้เราดูดีผอมเพรียวจริงๆ นั่นแหละ แต่พออยากจะเลิกเพราะกลัวสุขภาพจะพังในระยะยาว ก็กลายเป็นว่า… ชีวิตพัง เพราะ ผลจากการโยโย่เอฟเฟค ไม่จบแค่นั้นร่างที่พังและ มันยังส่งผลต่อจิตใจด้วย ไม่ต้องถามเรื่องจิตวิญญาณเลย เรียกว่าพังมันทั้งระบบนั่นแหละ

 

 

โยโย่จนเครียดแทบเป็นโรคซึมเศร้า

ช่วงโยโย่ยาใหม่ๆ เพื่อนๆ จะรู้ว่าอินี่เครียดจนถึงขั้นจะเป็นโรคซึมเศร้า
ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะมันเครียดมาก เกลียดตัวเองที่อ้วนขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด
ทุกคนทัก ทุกคนช็อคตอนเจอ
นี่ไปทำไรมา? ทำไมอ้วน? นี่ออกกำลังกายไม่ใช่หรอ ทำไมยังอ้วน?”
สารพัดร้อยพันคำถามที่กดดัน

ใช่ เราพยายามอย่างหนักในการที่จะลดความอ้วน ทำสารพัดสูตรที่ใช้
ตอนนั้นการจัดลำดับความสำคัญ (Priority) ของเราคือการ “ไปยิม” และ “การนับแคลกิน” 
เพราะคิดแต่จะผอมให้เหมือนเดิม หลังเลิกงานก็จะรีบบึ่งไปยิม ออกกำลังวันละ 5 ชม.
ดูเพิ่มเติมได้จากคลิปนี้ …

 

 

 

ทำทุกทาง แต่ก็ไร้ผล..
ชีวิตช่วงนั้น ก็ไม่ค่อยใส่ใจพระเจ้าเท่าไหร่ รู้แต่เราจะโฟกัสไปแต่ยิม ต้องผอมให้ได้

 

ไปโบสถ์มั่งไม่ไปมั่ง อ่านไบเบิ้ลมั่งไม่อ่านมั่ง (ส่วนใหญ่ไม่อ่าน) เวลามีเรียนพระคัมภีร์ ก็จะขอออกก่อน เพราะไปยิม

ยอมรับเลยว่า เราไม่ได้ให้เวลากับพระเจ้าแต่ให้เวลากับสิ่งอื่น 100%

อย่างที่บอก ในปีแรกที่เชอเลิกยา พยายามทำทุกอย่างละ แต่น้ำหนักก็พุ่งขึ้น 12 โล
มันดูผิดธรรมชาติมาก แบบเห้ย!!! นี่เลือกกินคลีนยิ่งกว่าคนผอมทั่วไปกินอีกนะ
ตรวจสุขภาพมาก็แย่ มีแต่แย่ คอเรสเตอรอลก็เกิน
สุขภาพของเชอมีแต่ แย่ลง แย่ลง แย่ลง” ทั้งที่เราทำถูกต้องตามทฤษฎีทุกอย่าง

เครียดจนอยากตาย ซ้ำๆ เวลาตื่นมาเห็นหน้าตัวเองในกระจกก็ยิ่งอยากตาย”

 

 

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2014 

ช่วงนั้นที่มีโอกาสได้ไปค่ายคริสเตียน ร่วมกิจกรรมที่โบสถ์มากขึ้น มีเวลาส่วนตัวกับพระเจ้ามากขึ้น แต่ก็ยังคิดไม่ค่อยได้
เวลาอธิษฐานเราก็บอกกับพระเจ้าแค่ว่า ลูกขอให้สุขภาพเป็นเหมือนเดิม ขอให้ผอมเหมือนแต่ก่อน ซึ่งก็ไม่ได้คิดหรอกว่ามันเป็นการอธิษฐานเพื่อตัวเองแบบผิดจุดประสงค์ไปหน่อย แต่ตอนนั้นก็คิดได้แค่นั้นจริงๆ

 

แต่ก็ขอบคุณพระเจ้า ที่ยังดีที่ปีนั้นเชอมีโอกาสได้รับใช้ ได้ทำค่ายคริสเตียนที่เราต้องช่วยจัดกิจกรรมทุกอย่างเต็มๆ  และนปนนป็นเป็นปีที่เชอได้รับบัพติศมาด้วย

 

 

การได้มีโอกาสรับใช้ทำค่ายกับพี่น้องคริสเตียน ทำให้ความคิดเราค่อยๆ เปลี่ยน
ตอนนั้นทำค่ายกันอย่างเหน็ดเหนื่อยหนักหน่วงมาก

 

 

ด้วยเวลาที่ผ่านพ้นไปเป็น เดือน… ปี…
หน้าที่การงาน สิ่งต่างๆ ที่พบเจอ
มันทำให้เราโฟกัสเรื่องลดความอ้วนได้น้อยลงกว่าแต่ก่อน
บางทีก็ทำงาน และรับใช้เหนื่อยจนไม่อยากไปยิม

จากวินัยในการออกกำลังกายแบบบ้าคลั่ง
การควบคุมอาหารที่เราเคยให้ความสำคัญมันเกินร้อย ประมาณว่า ต้องนับแคลลอรี่ที่กินต่อวัน ถึงขนาดพกตาชั่งไปร้านปิ้งย่างชั่งหมูกินไม่ให้แคลเกิน
อะไรแบบนั้นมันค่อยๆ ลดลงจนแบบ เหลือออกกำลังแค่วันละ 2 ครั้งได้นี่พอแล้วอ่ะ

การกินในช่วงนั้นนี่หืม… ลองไปย้อนดู IG เชอ แทบไม่มีไรคลีน 55
คลีนบ้างไม่คลีนบ้าง มื้อข้าวหลักๆ ก็เน้นข้าวกล้องแหละ แต่ขนมจุบจิบอะไรที่ไม่คลีนก็กิน
กาแฟเดี๋ยวนี้ก็กินแบบใส่นมข้นร้านนี่แหละ ไม่ได้พกสตีเวีย (สารให้ความหวานแทนน้ำตาบ) เลย
คือไลฟ์สไตล์กลายเป็นคนแบบ เลือกกินเฮลตี้ตามโอกาสอ่ะ 5555555
ไม่ได้เคร่ง แต่ก็ไม่ถึงกับปล่อยตัวไปเลย จะเรียกว่าสมดุลย์ขึ้นก็ได้

 

https://www.instagram.com/p/BHjpWsCjpgN/?utm_source=ig_web_button_share_sheet

อันนี้รูปปี 2016

 

ช่วงระหว่างนี้ ก็ไม่ได้อะไรกับรูปร่างตัวเองขนาดนั้น
คือมันก็เคยมีเครียด มีคิดบ้างนะ
ว่าแบบ มะไหร่จะผอมว้า..? แต่ก็เออ ไม่ได้ซีเรียสเท่าเก่า
ดูก็ดูไม่ออกว่าตัวเองผอมลงไม่ผอมลง น้ำหนักก็ไม่อยากชั่ง
เคยชั่งไป โหย มันก็เท่าเดิมบวกลบ ไม่ต่างกันมาก

 

 

งานรับใช้ทำให้ไม่มีเวลาโฟกัสเรื่องความอ้วน ปี 2017

ปีนี้เชอได้มีโอกาสรับใช้พระเจ้าเต็มๆ อีก คือการถูกรับเลือกเป็นประธานภาควัยรุ่น (กลุ่มอนุชน) ที่โบสถ์
ต้องวางแผนทำกิจกรรมตลอดปี และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้ช่วยจัดค่ายกับพี่น้องคริสเตียนอีก

 

https://www.instagram.com/p/BPjo6QghwY_/?utm_source=ig_embed

 

ให้เวลาโบสถ์มากขึ้น ให้เวลาพระเจ้ามากขึ้น อุทิศตัวเอง สละเวลาส่วนตัวให้พระเจ้ามากขึ้น
ซึ่งนั่นแปลว่า… พอเป็นแบบนั้น การไปยิม” ก็ไม่ใช่  priority ต่อไปอีก
มันไม่ใช่ priority แล้วจริงๆ

เรามีงาน มีอะไรหลายอย่างให้เราดูแล มากมายหลายอย่างที่เราต้องให้ความสำคัญ และต้องใส่ใจ มากกว่ารูปร่างหน้าตา ความผอมสวย ที่เมื่อก่อนเราให้ความสำคัญแบบสุดๆ

แต่แล้ว..
มีวันนึง คนที่โบสถ์คนนึง ทำท่าตกใจมากตอนเจออิเชอ
เห้ย ไปทำอะไรมา ทำไมผอมลง” เอามือทาบอก
อันนี้ก็ยืนงงอยู่ แบบ “หรอ..? ไม่รู้อะ ก็ออกกำลังกายนะแต่น้อยกว่าเดิมมาก กินคุมมั่งไม่คุมมั่ง”
เค้าถามอีก ลงไปสืบโลได้ป่ะ”  ตอนนั้นอินี่ยิ่ง งง เลยค่ะ แบบเห้ย เวอร์มากอ่ะ นี่ไม่รู้เลยว่าลงไปกี่โล
แต่ไม่มีทางถึง10 แน่ๆ น้ำหนักก็ไม่ได้ชั่ง

และคนก็เริ่มทักมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะ น้องๆ พี่ๆ ไปถึงผู้ปกครองที่โบสถ์
เพื่อนที่อื่น เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนที่ยิม
แม้กระทั่งหม่อมแม่ ที่ชอบกดดันให้ไปลดความอ้วนบ่อยๆ ก็ทักว่า ผอมลงนะ”
ซึ่งมันเป็นคำที่ทำให้เราฟังละแบบ เออ…ก็รู้สึกดีนะ ดีใจอะ แต่ก็ดีใจแบบงงๆ เพราะแบบ
หื๊ม ทำไมผอมลงวะ? นี่ฉันแทบไม่ทำไรเลยนะ 55555
ถ้าเป็นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้ฟังคำนี้คงดีใจกระโดดโลดเต้นถึงดาวอังคาร 555555

เชอรู้ว่ามันฟังดูอาจไร้สาระสำหรับใครบางคน แต่เชอเชื่อว่านี่แหละคือ
พระคุณของพระเจ้า”

จริงอยู่หลังจากเลิกยาและระบบของร่างกายพังไป ร่างกายอ่ะ จะมีการปรับตัวฟื้นฟู recover ตัวเองดีขึ้นบ้างเมื่อเวลาผ่านไป อันนั้นไม่เถียง
แต่ตามกลไกลของร่างกาย ณ ปัจจุบัน ที่แทบไม่มีวินัยออกกำลังกาย
แต่กลับผอมลงไปอีก เรื่อยๆ เรื่อยๆ มันดูตลกและ ไม่น่าเป็นไปได้”
เมื่อมองย้อนกลับไปตอนนั้น ที่ทำแทบตาย พยายามจน overtrain (ออกกำลังอย่างหักโหม) แต่ก็กลับอ้วนขึ้นๆ

 

สิ่งที่เกิดกับเชอตอนนี้มันเหมือนทำให้เชอรู้ว่า
การเชื่อไว้วางในใจพระเจ้า
Give God First (ให้พระเจ้าก่อน)
รับใช้พระองค์ เมื่อพระองค์เรียกหา
มันทำให้พระเจ้าอวยพร รักษาเชอ และให้ในสิ่งที่ลึกๆ แล้วใจเชอปรารถนาได้
และมันทำให้เชอนึกถึงข้อพระคัมภีร์ มัทธิว 6:25-34 

 

“เพราะเหตุนี้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตนว่าจะเอาอะไรกิน หรือจะเอาอะไรดื่ม และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตนว่าจะเอาอะไรนุ่งห่ม ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหารไม่ใช่หรือ? และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่มไม่ใช่หรือ? จงดูนกทั้งหลายบนฟ้า พวกมันไม่ได้หว่าน ไม่ได้เกี่ยว ไม่ได้รวบรวมไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของพวกท่าน ผู้สถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงพวกมันไว้ ท่านไม่ประเสริฐกว่าพวกมันหรือ? มีใครในพวกท่านที่โดยความกระวนกระวาย สามารถต่ออายุของตนให้ยืนนานขึ้นอีกนิดหนึ่งได้ ท่านกระวนกระวายถึงเครื่องนุ่งห่มทำไม? จงพิจารณาดูว่าดอกไม้ในทุ่งนานั้นเติบโตขึ้นอย่างไร มันไม่ทำงาน มันไม่ปั่นด้าย แต่เราบอกพวกท่านว่า แม้แต่กษัตริย์ซาโลมอนเมื่อทรงบริบูรณ์ด้วยศักดิ์ศรี

 

ก็ไม่ได้แต่งพระองค์งามเท่าดอกไม้เหล่านี้สักดอกหนึ่ง 30และถ้าพระเจ้าทรงตกแต่งหญ้าที่ทุ่งนาอย่างนั้น ซึ่งเป็นอยู่วันนี้และรุ่งขึ้นต้องทิ้งในเตาไฟ โอ พวกมีความเชื่อน้อย พระองค์จะไม่ทรงตกแต่งท่านมากยิ่งกว่านั้นหรือ? 31เหตุฉะนั้นอย่ากระวนกระวายและกล่าวว่าจะเอาอะไรกิน? หรือจะเอาอะไรดื่ม? หรือจะเอาอะไรนุ่งห่ม? 32เพราะว่าบรรดาคนต่างชาติแสวงหาสิ่งทั้งปวงนี้ แต่ว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการสิ่งทั้งปวงนี้ 33แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้

 

“เพราะฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงวันพรุ่งนี้ เพราะว่าพรุ่งนี้ก็มีเรื่องกระวนกระวายของมันเอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว”

 

และที่ผ่านมา เชอก็พยายามใช้ข้อพระคัมภีร์นี้เป็นสิ่งที่เตือนใจอยู่บ่อยๆ
และข้อนี้เองแหละ ที่เชอพยายามสื่อออกไปกับคลิปแชร์ประสบการณ์ลดความอ้วน ที่แปะไว้ข้างต้น
คือชีวิตเรามีค่ามากกว่ามากังวลเรื่องพวกนี้ มันมาจากพระคัมภีร์ข้อนี้แหละจริงๆ

 

ถามว่าตอนนี้เชอผอมยัง?

ก็ยัง ถือว่าอวบๆ ไม่เฟิร์มเหมือนคนทั่วไปหรอก
แต่นั่นแบบ มันไม่ใช่เรื่องที่เชอ Focus เป็นหลักแล้วอ่ะ คือผอมลงมันก็ดีแหละ
แต่ไม่ได้บ้าคลั่งซีเรียสอยากผอมเอาเป็นเอาตายเหมือนแต่ก่อนจริงๆ

สิ่งสำคัญคือตอนนี้ เชอมี สันติสุขในใจ” กว่าเดิมมาก Happy กว่าเดิมมากกกกๆๆๆๆๆ

การมีชีวิตที่มีพระคริสต์มันคือ “ของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิต..”

 

จริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่อง ผอมลง” ที่เชอเห็น
มันมีเรื่องอื่นๆ การงานที่ดี โอกาสดีๆ ที่เข้ามาในชีวิต ที่พระเจ้าอวยพรเชอ ให้เชอมา
และยังมีอีกเป็น 10,000 อย่างที่เชออาจยังมองไม่เห็น แต่เชอเชื่อว่าพระเจ้าดูแลอยู่จริงๆ

สำหรับคนที่ไมใช่คริสเตียน ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้
อาจจะมีคำถามว่า ทำไมถึงดูอิน ดูอะไรขนาดนั้น? งมงาย นี่มันเป็นบ้ารึเปล่า พระเจ้าอะไรของมัน? มีที่ไหน?”

เชอบอกได้เลยว่า ก่อนหน้าที่นี้เชอก็ไม่เชื่อหรอก
กว่าจะมาเป็นคริสเตียนได้นี่ผ่านสตอรี่ #ต่ำตม มาเยอะมาก5555

แต่ด้วย พระคุณและความรักของพระเจ้าล้วนๆ” บวกกับเชอมีประสบการณ์หลายๆ อย่างกับพระเจ้าโดยตรง ทั้งผ่านการอธิษฐาน ผ่านอะไรหลายๆ อย่าง มันทำให้เชอรู้ว่า
พระเจ้ามีอยู่จริง และพระองค์รักเรามากกกก
มากจนยอมส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ คือ พระเยซูคริสต์” มาไถ่บาปมนุษย์อย่างเรา

ถ้าให้พูดเรื่องนี้คงยาว 5555 ไว้จะแบ่งปันคำพยานอีกนะคะ

คิดไว้นานหลายปี ว่าอยากจะแบ่งปันคำพยานเรื่องพระเจ้าลง Blog ตัวเองสักครั้ง
และวันนี้ก็ได้ทำแล้ว 🙂 (แล้วพี่ชูใจก็ไปขอมาลงเว็บ อิอิ)

รู้สึกขอบคุณพระเจ้ามาก ที่มีโอกาสมานั่งเขียนคำพยานชีวิตตรงนี้
ยังไงเชอขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจออุปสรรคในชีวิตนะคะ
ทุกอย่างนั้น มันมีทางออก และทางออกนั้น.. “ถ้าเรากลับใจใหม่พระเจ้าก็เปิดประตูต้อนรับเราเสมอ”

 

 

“พระเจ้ารักคุณเสมอไม่ว่าคุณจะรูปร่างแบบไหนหรือใครจะมองจะคุณด้วยสายตาแบบไหน
เพราะพระเจ้ามองเราด้วยสายตาแห่งความรักและพระองค์พร้อมที่โอบกอดคุณเสมอ”

 

. . .

 

ชูใจ

ขอพระเจ้าอวยพรทุกคนค่า  
ด้วยรักและชูใจ

 

 

 


จบลงไปแล้วสำหรับลดความอ้วนไดอารี่ บันทึกเรื่องราวของเด็กสาวคริสเตียนที่ตัดสินใจต่อสู้กับความอ้วนและเส้นทางการเรียนรู้จักพระเจ้าของเธอ ชาวชูใจสามารถติดตามผลงานของ Blogger สาวคนนี้ได้ทาง …

Facebook : www.facebook.com/cherriiecherryfanpage/
IG: @cherriiecherry
Blog: www.cherriiecherry.com

 


Previous Next

  • Author:
  • เชอรี่ เชอ หรือ อิเชอ. Blogger สาวสวยที่เคยเผชิญกับความอ้วนและผ่านความเจ็บปวดจากการต่อสู้กับยาลดน้ำหนัก เรื่องราวของเธอให้กำลังใจผู้คนมากมายและทำให้หลายคนกลับมารักตัวเอง
  • Illustrator:
  • ลาเบย (Labiere)
  • จับงานวาดมาตั้งแต่มัธยม จบออกแบบมาก็ยังวาดไม่ยั้ง ยังอยู่ร่วมกันในแวดวงงานรับใช้ไม่เคยหาย พร้อมๆกับความฝันในงานมิชชั่นนารี
  • Editor:
  • Perapat T.
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)