คนต้นเรื่อง : อ่านล่องไปกับเรือทุกตอนได้ที่ : https://www.choojaiproject.org/category/articles/life-series/journey-with-logoshope/


______________________________

มัลดีฟ เกาะสวรรค์ ที่ลูกเรือในตอนนั้นไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ไปเยือนและก็เป็นครั้งแรกที่เรือคริสเตียนอย่างโลสามารถจอดเทียบท่าและเปิดร้านหนังสือให้ชาวมัลดีฟซึ่งนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ได้เยี่ยมชมเรือได้

______________________________

ฉันคิดว่าเรื่องราวก่อนที่เรือจะไปเกาะนั้นได้ มันมหัศจรรย์ และมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทรงกระทำให้เกิดขึ้นได้

ตามที่คนส่วนมากรู้กัน เกาะมัลดีฟ เป็นหมู่เกาะที่อยู่ระหว่างทางจากประเทศอาหรับกับประเทศศรีลังกา ผู้อำนวยการของเรือในขณะนั้นอาสาเป็นฝ่ายประสานงาน ดำเนินการทุกอย่างเพื่อที่เรือจะสามารถเข้าประเทศได้ ซึ่งโดยปกติแล้วช่วงเวลานั้นของปีท่าเรือที่มัลดีฟจะเต็มเอี๊ยดและเรือที่จะจอดจะต้องจ่ายค่าจอดราคาแพงมหาศาล แต่เพราะพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่บวกกับพลังของคำอธิษฐานของลูกเรือ เพียง 1 วัน ก่อนที่เรือจะต้องหันหัว มุ่งหน้าไปประเทศศรีลังกา ผู้อำนวยการที่อยู่ในเกาะมัลดีฟก็ส่งอีเมลล์ตอบกลับมาให้ทางเรือว่า เราสามารถไปเกาะมัลดีฟได้! ทางกรมการท่าเรือมัลดีฟตอบตกลงและอนุญาตให้เรือจอดได้เป็นเวลา 1 อาทิตย์ แถมเจ้ากรมท่ายังกล่าวด้วยความประหลาดใจอีกว่า มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ท่าเรือจะว่างได้ขนาดนี้ พระเจ้าคงต้องการให้เรือมาจอดที่นี่จริงๆ! เจ๋งเป้ง !


เมืองที่ท่าเรือไปจอดเป็นเมืองหลวงชื่อ มาเล่ (Male’) ซึ่งเป็นศูนย์กลางร้านค้าที่กระจายสินค้าไปตามคลับเมดและหมู่เกาะเล็กๆ ตัวเกาะมีขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้เราสามารถเดินรอบเกาะได้ภายใน 2-3 ชม.ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเดินของแต่ละคน ฉันก็ใช้เวลาเดินเที่ยว เดินสำรวจ เดินหลงอยู่ชั่วโมงนึงเพื่อตามหาร้านไอติมและกาแฟ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเดินเยอะขนาดนี้มาก่อน มันรู้สึกดีจริงๆ ทำให้รู้ว่า เราก็เดินเที่ยวได้นี่หว่า!!

ขณะที่เดินก็ได้พบปะ พูดคุย แจกใบปลิว เชิญชวนผู้คนมาเที่ยวเรือ ชาวมัลดีฟรูปร่างหน้าตาคล้ายชาวศรีลังการหรืออินเดีย ผิวคล้ำ และชอบสูบบุหรี่มาก ระหว่างที่เดินตามถนนก็เห็นก้นบุหรี่ตกเกลื่อนเต็มไปหมด ด้วยความที่ศาสนาประจำชาติคือ ศาสนาอิสลาม เราจึงสามารถเห็นมัสยิดอยู่เกือบทุกหนแห่ง ผู้คนอัธยาศัยดีเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว พูดภาษาอังกฤษชัดเป๊ะประหนึ่งเจ้าของภาษาแถมยังพูดได้อีกหลายภาษาเพราะมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ในวันหยุดวันหนึ่ง ฉันกับเพื่อนเรานั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวเกาะเล็กๆใกล้ๆท่าเรือชื่อ ฮูนนูมาเล แต่พอถึงเกาะ พวกเราก็หน้าเอ๋อเพราะไปไม่ถูก เดินลอยๆ หลงๆ เข้าไปเรื่อยๆ พยายามมองหาป้ายบอกทางแต่ก็ไม่เห็นสักกะอัน

.

จนกระทั่ง Suha สาวน้อยมุสลิมคนหนึ่ง เดินเข้ามาทักและถามว่า ยูจะไปไหนกันเหรอ จึงได้ตอบเธอไปว่า เราจะไปทะเล แต่ไม่รู้ว่าไปทางไหน เธอจึงบอกเราว่า งั้นตามมา ฉันจะเดินไปส่งนะ หาดนี้คนไม่ค่อยเยอะ โอ ! พระเจ้าส่งนางฟ้ามาให้แล้ว ! เราก็เลยเดินคุยกันไป ได้ความว่าสาวน้อยกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ใกล้จบแล้วและยังไม่รู้ว่าจะทำงานหรือเรียนต่อดี อยากเป็นคุณครู ฉันจึงชวนให้ไปเที่ยวเรือ บอกเธอว่ามีหนังสือถูกๆขายมากมาย ถ้ามาเรือเรียกหาฉันนะ ฉันจะพาเที่ยวในเรือ สาวน้อยก็ยิ้มตอบให้อย่างสุภาพ แล้วเดินจากไป

.
สาวน้อยคนนี้ทำให้ฉันอยากจะเป็นเจ้าบ้านที่ดีกับนักท่องเที่ยวนะ ช่วยเหลืออะไรได้ก็ช่วยกัน แถมเป็นการสร้างความประทับใจให้กันด้วย

______________________________


เมืองเกล Galle ประเทศศรีลังกาเป็นเมืองท่องที่ยว น่ามาพักตากอากาศและเดินเที่ยวชมเมืองเก่า เรือมาเยือนเมืองนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ด้วยความที่ฉันไม่ได้ประทับใจในตัวเมืองมากนัก แถมยังมีทะเลสวยอยู่ใกล้เรือ ฉันเลยเดินไปเล่นน้ำทะเลเกือบทุกวัน นอกจากนี้ฉันยังได้ไปไร่ชา ชิมชาและดูการผลิตใบชา ทำให้ฉันหลงรักการดื่มชาตั้งแต่นั้นมา

แต่สิ่งที่ฉันประทับใจมากกว่านั้นและถือเป็นไฮไลท์ตลอดระยะเวลาในการอยู่เรือก็คือ การได้พบกับไกด์ท้องถิ่นที่ Galle Fort ชื่อคุณตา Situge ความจริงชื่อจริงของแกยาวมาก แกเลยให้เราเรียกแต่นามสกุลแทน แกใจดีมาก พาเดินเที่ยวจนตัวฉันดำ กร้านแดดกันเลยทีเดียว ซึ่งจะว่าไปตอนแรกๆ ฉันกับเพื่อนไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่า กำลังถูกไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยว พวกเรารู้สึกเหมือนเดินกับคุณตาที่ให้ความรู้เชิงประวัติศาสตร์มากกว่า เราทั้งคู่ประทับใจแกมากถึงมากที่สุด เราเดินเที่ยวจนจบการทัวร์เต็มรูปแบบ แต่เราทั้งสองไม่มีเงินติดตัวไปมากนัก มีเพียง 2 ดอลลาร์เท่านั้น แต่เราอยากตอบแทนมากกว่านั้น เราจึงชวนแกมาเที่ยวที่เรือ และอาสาเป็นไกด์พาชมให้ทั่วเรือ ซึ่งแกก็ยิ้มให้อย่างสุภาพแล้วตอบตกลง

วันรุ่งขึ้นคุณตาก็มาที่เรือ แกเดินชมเรือด้วยท่าทางที่สุภาพและชื่นชมอย่างไม่ขาดปาก แกบอกว่า ตอนที่เรือมาครั้งที่แล้ว แกรู้ข่าวแต่แกไม่มีโอกาสจะได้มาดู แต่ครั้งนี้ ความฝันเป็นจริง แล้วแกก็ยังอยากจะตอบแทนกลับด้วยการเลี้ยงข้าวเย็นที่บ้าน ฉันและเพื่อนก็ยินดี เราจึงพากันไปเยี่ยมแกที่บ้าน คุณยายลงมือทำกับข้าวให้ทานและต้อนรับเราอย่างดี ทำให้ยิ่งฉันยิ่งรู้สึกประทับใจมากยิ่งขึ้น พวกเราที่ไปด้วยกันก็ตอบแทนกลับด้วยการอธิษฐานเผื่อ ซึ่งแกก็ยินดีรับและเต็มใจ แล้วแกก็ขอไปเที่ยวเรืออีกครั้งพร้อมคุณยายและครอบครัวลูกชาย ซึ่งเราก็ยินดีและเต็มใจพาเที่ยว คุณยายซึ้งใจและร้องไห้พลางกล่าวขอบคุณตลอดการเดินเที่ยวชมเรือ

การได้เจอคุณตาSitugeและครอบครัวเป็นความประทับที่ไม่ลืมเลือน ทำให้ฉันนึกถึงที่อ.เปาโลบอกว่า

“ข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเรื่องข่าวประเสริฐ เพราะว่าข่าวประเสริฐนั้นเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับความรอด พวกยิวก่อน แล้วพวกกรีกด้วย”

โรม 1:16

ถึงแม้ว่า ครั้งนั้นฉันจะไม่ได้พูดเรื่องของพระเจ้าเลย แต่ฉันหวังว่าสิ่งที่ฉันแสดงออกและให้กับคุณตาจะเป็นเมล็ดที่หว่านลงไปในใจของคนทั้งครอบครัวได้บ้าง


นับจากวันนั้น ฉันไม่กลัวที่จะนำทัวร์ในเรือ ฉันกล้าที่จะพูดกับคนแปลกหน้าในร้านกาแฟในเรือ ฉันกล้าที่จะพูดคุยกับคนที่พึ่งเห็นกันครั้งแรกตอนที่เขาต่อแถวเข้าคิว และฉันกล้าที่จะอธิษฐานเผื่อคนที่พึ่งคุยกันเพียง 10 นาทีได้อย่างมั่นใจ พระเจ้าใส่ความกล้าให้ฉันมากขึ้นทุกวัน พระเจ้าสอนฉันผ่านคุณตาที่เข้าหาคนอื่นด้วยความน้อมนอบและอ่อนสุภาพ และสอนฉันว่า อย่าละอายที่จะประกาศข่าวประเสริฐ คุณตาเปรียบเหมือนครอบครัวใหม่ของฉันที่นั่น มันมีความผูกพันกันอย่างบอกไม่ถูก แม้ฉันจะจากที่นั่นมากแล้วฉันก็ยังคงติดต่อคุณตาผ่านหลานชายของเขาทางเฟสบุคอยู่เสมอจนทุกวันนี้และฉันก็อธิษฐานขอที่ทั้งครอบครัวจะได้รู้จักกับพระเจ้าสักวันหนึ่งด้วยค่ะ

.

ทีน่า


Previous Next

  • Author:
  • ทีน่า : สาวผู้ใฝ่ฝันจะเดินทางรอบโลก แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อพระเจ้านำเธอให้พบเจอกับเรือ 'โลโกสโฮป' เรือแห่งความหวังที่จะนำพาเธอไปผจญโลกกว้างโดยไม่ต้องเป็นเมียทูตแต่อย่างใด
  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Editor:
  • Jick
  • บก.ชูใจ ผู้ใฝ่ฝันจะชูใจน้องๆ จากความพลาดของตัวเอง
  • Editor:
  • Namita
  • สาวน้อยล่ามญี่ปุ่น ผู้เอ็นจอยกับการกินไปลดน้ำหนักไป เธอผู้มีความคาวาอี้อยู่ตลอดเวลายังมีความสามารถในการเรียบเรียงงานเขียนได้เป็นเลิศอีกด้วย