บทความนี้ใช้ระยะเวลาในการอ่าน 6 นาที เพื่อเข้าใจแก่นแท้ของอีสเตอร์ เลื่อนอ่านเลยจ้าาาา ☺
HIGHLIGHTS:
- ความหมายที่แท้จริงของวันอีสเตอร์ คือการฟื้นพระชนม์ของพระคริสต์ และ สัญลักษณ์ของวันอีสเตอร์ต่างๆ มีที่มาอย่างไร? และอะไรกันแน่ที่เป็นสัญลักษณ์ของวันอีสเตอร์ที่แท้จริง ปลอกเปลือกทั้งหลายออกและพูดกันถึงแก่นแท้ที่เป็นความหมายที่แท้จริงของวันอีสเตอร์!!!
__________________________________
“และถ้าพระคริสต์ไม่ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมา ความเชื่อของท่านก็ไร้ประโยชน์
ท่านก็ยังตกอยู่ในบาปของตน” (1โครินธ์ 15:17)
ถ้าถามว่าวันอะไรเป็นวันสำคัญที่สุดในปฏิทินของคริสเตียน หลายคนคงจะตอบว่า “วันอีสเตอร์นี่แหละ!” ถึงแม้วันคริสมาสต์ดูน่าตื่นเต้นหวือหวากว่า แต่เหตุผลที่พระเยซูลงมาเกิดบนโลกในวันคริสมาสต์ก็เพื่อตายไถ่บาปเรา และแม้ว่าพระองค์จะพูดว่า “สำเร็จแล้ว” ที่ไม้กางเขน แต่ภาพของการไถ่นั้นสำเร็จสมบูรณ์ในวัน “อีสเตอร์” เมื่อพระเยซูทรงฟื้นขึ้นมาตามคำพยากรณ์ที่พระองค์พูดเอาไว้
“พระองค์จะทรงถูกประหารชีวิต และหลังจากนั้นสามวันจะเป็นขึ้นมาใหม่” (มาระโก 8:31)
ถ้าปราศจากการฟื้นขึ้น การลงมาเกิดและตายจะไม่มีความหมายอะไรเลย ดังนั้นวันที่พระเยซูฟื้นขึ้นจึงเป็นการประกาศถึงชัยชนะเหนือความบาปและความตาย และนั่นคือวันที่พิเศษที่สุด!!!
.
อีสเตอร์ไม่ได้เป็นเทศกาลของชาวยิว และไม่ได้มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้มีบันทึกไว้ในพระหนังสือพระกิตติคุณ และไม่ได้แปลว่าเราจะมีวันหนึ่งที่ระลึกถึงการฟื้นพระชนม์ไม่ได้ พระเยซูทรงตั้งพิธีมหาสนิทขึ้นในตอนที่ทรงรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับบรรดาสาวกระหว่างเทศกาล “ปัสกา” (Passover) ปัจจุบันเรารำลึกถึงการสิ้นพระชนม์และตั้งชื่อวันนั้นว่า “ศุกร์ประเสริฐ” หลังจากครบสามวันพระองค์ทรงฟื้นขึ้น คริสเตียนก็ระลึกถึงวันนั้นในชื่อ “วันอีสเตอร์”
ภาพถ่าย โดย Joshua Davis
เดิมทีการฉลองการฟื้นพระชนม์อ้างอิงกับปฏิทินยิว จนในปี ค.ศ. 325 จักรพรรดิคอนสแตนติน (Constantine) แห่งอาณาจักรโรมัน และที่ประชุมแห่งไนเซีย (The Council of Nicaea) มีมติว่าวันอีสเตอร์ควรต้องตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมา
นอกจากนั้นเมื่อศาสนาคริสต์เริ่มแพร่ขยายไปทั่วยุโรป ก็เริ่มมีการผสานวัฒนธรรมความเชื่อของคนพื้นถิ่นเข้ามา คาดกันว่าชื่อวัน “อีสเตอร์ ” เป็นชื่อที่มาจากนามของเทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิของชาวยุโรปโบราณนั่นเอง
.
แล้วไก่กับไข่มาจากไหน? ทำไมต้องไข่ต้มแล้วระบายสีในวันอีสเตอร์?
พระคัมภีร์พูดถึง ‘ไก่’ ทั้งหมดประมาน 12 ครั้ง โดย 8 ครั้งคือตอนที่เปโตรคนดีปฎิเสธพระเยซูก่อนไก่ขัน แต่นี่ก็ไม่น่าจะใช่สาเหตุที่นำ ไก่กับไข่มาเกี่ยวข้องกับอีสเตอร์เท่าไหร่ แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในสัปดาห์เดียวกันกับการถูกตรึงและฟื้นพระชนม์ก็ตาม
ภาพถ่าย โดย Autumn Mott
ในซีกโลกฝั่งตะวันตก หลังจากความหนาวเหน็บในฤดูหนาวได้ผ่านพ้นไปก็จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการเพาะปลูกและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลายๆ ศาสนาในสมัยโบราณมีประเพณีการฉลองฤดูใบไม้ผลิ และด้วยความสามารถในการ Mix and Match ของมนุษย์ ไข่ กระต่าย ไก่ ผีเสื้อ ดอกลิลลี่ บลาๆ ก็กลายเป็นสัญลักษณ์วันอีสเตอร์ในที่สุด
นานวันเข้าไข่ต้มก็เริ่มมีสีสันและหลายอย่างเริ่มดูซับซ้อนขึ้น แก่นแท้และความหมายก็เริ่มถูกกิจกรรมต่างๆ อันเป็นเปลือกห่อหุ้มซะแทบจะมิด แม้คริสเตียนหลายคนและคริสตจักรจะพยายายามสอนเด็กๆ ว่า ไข่และสิ่งสารพัดอื่นๆ เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่ในพระคริสต์ แต่ก็มีอีกหลายต่อหลายคนที่หลงลืมความสำคัญเหล่านั้นเพราะการตามหาไข่ที่ซ่อนอยู่ตามโพรงไม้สนุกกว่านี่นา
และแล้ว… ไข่กับกระต่ายอีสเตอร์ก็แย่งซีนพระเยซูไปในที่สุด!!!
ด้วยเหตุนี้เอง คริสเตียนหลายคนจึงไม่ชอบให้มีไข่หรือกระต่ายในเทศกาลอีสเตอร์ บางคนถึงกับให้หลีกเลี่ยงการใช้ไข่และกระต่ายในวันอีสเตอร์ด้วยซ้ำ โดยให้ความเห็นว่าธรรมเนียมเหล่านี้มาจากศาสนาอื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับการนับถือรูปเคารพ พวกเขาย้ำว่าวันอีสเตอร์คือวันของพระเยซู ไม่ใช่วันของไข่และกระต่าย รวมทั้งธรรมเนียมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของคริสเตียน (และก็มีอีกกลุ่มที่ แบนวันอีสเตอร์ไปเลยเพราะไม่ได้มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ โดยให้เหตุผลว่าสิ่งเหล่านี้หันเหความสนใจของผู้คนไปจากความหมายที่แท้จริงของการฟื้นพระชมน์ และไม่เป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้า)
เครื่องหมายแห่งชีวิตใหม่ในวันอีสเตอร์คือ “เราเอง” ไม่ใช่ไข่ไก่
สัญลักษณ์และรูปแบบ ไม่สำคัญกว่าความหมาย
หลายครั้งเราจริงจังกับการทุ่มเถียงว่าควรจะจัดงานในรูปแบบไหน จนลืมความหมายที่แท้จริงของสิ่งที่เราทำ
สาระสำคัญของวันอีสเตอร์ คือ “การฟื้นขึ้น” โดยพระเยซูที่ทรงลงมาตายเพื่อรับภาระทั้งหมดไปแล้ว ไม่ใช่ข้อถกเถียงเรื่องชื่อวัน หรือ ปีนี้จะต้มไข่กี่ฟอง จะเสิร์ฟข้าวต้มหมูหรือโจ๊กไก่ดี ไม่ใช่การสรรหากิจกรรมมาทำให้เหนื่อยกายหน่ายใจ
![](https://www.choojaiproject.org/wp-content/uploads/2017/04/Easter-Rabbit2-by-Ryan-McGuire.jpg)
ภาพถ่าย โดย Ryan McGuire
ความจริงที่เราควรระลึกก็คือว่า พระเยซูคริสต์ทรงมีชัยเหนือความบาปและความตาย ทรงทำให้ “สำเร็จแล้ว” โดยพระองค์ เราจึงได้รับชีวิตใหม่ ดังนั้นเราจะจัดงานอย่างไรจึงไม่สำคัญเท่ากับว่า เราคือใครในพระคริสต์ต่างหาก ด้วยความจริงข้อนี้ “เราทุกคนที่ได้รับชีวิตใหม่ จึงเป็นสัญลักษณ์ของวันอีสเตอร์ที่พระเยซูตั้งไว้ ไม่ใช่ไก่ที่ไหน” เหมือนที่พระคัมภีร์พูดไว้ว่า…
“ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นเป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น” (2 โครินธ์ 5:17)
หากแต่เราเข้าใจและไม่ลืมความหมายที่แท้จริงนี้ วันอีสเตอร์จะใช้ชื่อวันอะไรก็ได้ จะจัดเวลาไหนก็ได้ เพราะรูปแบบวิธีการคือสิ่งที่เรากำหนดและสร้างขึ้นมาเอง เหมือนเปลือกไข่ที่จะระบายสีอะไรก็ได้หรือแม้ไม่ระบาย แต่คุณค่าภายในนั้นยังคงเป็นไข่อยู่ดี
ภาพถ่าย โดย Ryan McGuire
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะจัดงานเพื่อระลึกร่วมกันหรือไม่ ไม่ว่าจะอย่างใดก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่า พระเยซูคริสต์ทรงตายบนไม้กางเขน และในวันที่สาม พระองค์ทรงเป็นขึ้นจากความตาย เพื่อให้เราทุกคนได้รับชีวิตใหม่ ซึ่งเป็นความจริงที่เราควรจะระลึกถึงในทุกๆ วัน
ด้วยรักและไข่ต้ม ☺
.
ข้อมูลเพิ่มเติม ::
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทศกาลปัสกาและอีสเตอร์ เขียนโดย อ. ปัทมโรจน์ มากสุริวงศ์ อ้างจาก http://pattamarot.blogspot.com/2011/04/blog-post.html
มารู้จักความจริงวันอิสเตอร์กัน โดย เกร็ดหนังสือม้วน http://www.creation-church.com/article08.php
Why Easter is called Easter, and otherlittle-known facts about the holiday by Katie Morrow อ้างจาก http://theconversation.com/why-easter-is-called-easter-and-other-little-known-facts-about-the-holiday-75025
รวมข้อพระคัมภีร์ที่พูดถึงไก่ อ้างจาก https://bible.knowing-jesus.com/topics/Chickens
.
ติดตามบทความในคอลัมน์ #Featured คอลัมน์ในกระแสที่หยิบจับเอาเรื่องทั่วไปมาพูดคุยกันในมุมมองของคริสเตียน ทุกวันพฤหัสสีส้มนะคะ ☺
Related Posts
![](https://www.choojaiproject.org/wp-content/uploads/2016/11/Thatman-300x300.jpg)
- Author:
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
![](https://www.choojaiproject.org/wp-content/uploads/2021/06/Narit-300x300.jpg)
- Illustrator:
- Narit
- เนื้อแท้เป็นคนรักหนัง เบื้องหลังดีไซน์เก๋ๆ สวยๆ ของเว็บชูใจ คือฝีมือของเค้า นักออกแบบตัวยงผู้รักบอร์ดเกมเป็นชีวิตจิตใจ และอยากเห็นงานสร้างสรรค์คริสเตียนไทยพัฒนาก้าวไกลไม่แพ้ชาติไหนในโลก
![](https://www.choojaiproject.org/wp-content/uploads/2021/06/Narit-300x300.jpg)
- Editor:
- Narit
- เนื้อแท้เป็นคนรักหนัง เบื้องหลังดีไซน์เก๋ๆ สวยๆ ของเว็บชูใจ คือฝีมือของเค้า นักออกแบบตัวยงผู้รักบอร์ดเกมเป็นชีวิตจิตใจ และอยากเห็นงานสร้างสรรค์คริสเตียนไทยพัฒนาก้าวไกลไม่แพ้ชาติไหนในโลก