ผู้เขียน: Pick Suntisuktawon
“มันคงจะดีนะ ถ้าเราสามารถมีเพื่อนฝ่ายวิญญาณที่แชร์กันทุกเรื่องที่กังวลใจและอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกันได้”
7 ปีที่แล้ว ความคิดนี้วนอยู่ในความคิดผมอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง จนผมตัดสินใจอธิษฐานกับพระเจ้าขอพระองค์ประทานเพื่อนฝ่ายวิญญาณให้เพื่อที่จะเสริมสร้างและก่อกันขึ้น พระเจ้าส่งเพื่อนฝ่ายวิญญาณมาให้ผม 2 คน
__________________________
.
คำว่า “เพื่อนฝ่ายวิญญาณ” เราคาดหวังเพื่อนประเภทไหนบ้างครับ? อย่างน้อยๆ เป็นคนที่ยอมรับวิธีคิดของเราโดยไม่ตัดสิน และดึงเราขึ้นเมื่อเราเผชิญกับปัญหาชีวิต เป็นคนที่ไว้ใจได้ที่เราจะเล่าเรื่องบางเรื่องที่ไม่สามารถพูดกับใคร สนับสนุนเราจากคำอธิษฐาน และการหนุนใจ เตือนสติเมื่อเราทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอบคุณพระเจ้าผมได้เพื่อนแบบนั้นถึง 2 คน แต่เนื่องจากนั้นลักษณะส่วนตัวแต่ละคนนั้นแตกต่างกันเราจึงมีปัญหากันในการปรับตัวในช่วงแรก
เรามีความแตกต่างและมีความเป็นตัวของตัวเองกันสูงมาก แต่เกลียวเชือกที่คอยประสานเราไว้ยามที่เราจะไม่เข้ากันคือ “การให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางในความสัมพันธ์”
.
บางครั้งเกิดเหตุการณ์ทำให้เข้าใจผิด และน้อยใจกัน สิ่งที่เป็นจุดแข็งในความสัมพันธ์ของเราทั้งสามก็คือการที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่น่ารักในความสัมพันธ์เราจะจัดการเวลาส่วนตัวและนัดกันเพื่อมาอธิษฐานและพูดคุยแบบตรงไปตรงมา เริ่มด้วยคำถามเพื่อหาจุดแก้ไขร่วมกัน
.
แรกๆ ผมไม่มีความสุขกับวิธีการแบบนี้ เพราะผมจะเก็บทุกเรื่องไว้ในใจ ผมไม่ถนัดกับการจัดการกับความขัดแย้ง แต่เมื่อพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในความสัมพันธ์ เราสามารถจัดการกับสิ่งที่ต้องปรับตัวในความสัมพันธ์และมองในมุมต่างออกไปได้มากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในการเข้าใจคนอื่น เรายังแบ่งปันปัญหาส่วนตัวกันเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ
.
ในกลุ่มเราบางคนไม่ถนัดในการเข้าใจความรู้สึก บางคนไม่ถนัดการคิดหาเหตุผลเชิงตรรกะ บางคนเป็นมืออาชีพในการจัดการกับตัวเอง บางคนเป็นมืออาชีพในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน เราก็สามารถแลกเปลี่ยนมุมมองในอีกมิติ ที่เราไม่เคยสังเกต หรือให้ความสนใจ ในความสัมพันธ์นี้มีการแลกเปลี่ยนในส่วนดีของกันและกัน
.
เมื่อเวลาผ่านไปเราจึงพบว่า
“เหล็กลับเหล็กให้คมได้ฉันใด คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนให้เฉียบแหลมได้ฉันนั้น”
(สุภาษิต 27:17)
“สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดี ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง และไม่มีผู้อื่นพยุงยกเขาให้ลุกขึ้น อนึ่ง ถ้าสองคนนอนอยู่ด้วยกัน เขาก็อบอุ่น แต่ถ้านอนคนเดียวจะอุ่นอย่างไรได้เล่า แม้คนหนึ่งสู้คนเดียวได้ สองคนคงสู้เขาได้แน่ เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้”
(ปัญญาจารย์ 4:9-12)
________.
__________________________
.
ช่วงเวลาหนึ่งผ่านไป พระเจ้ามอบการบ้านให้ที่ผมเป็นเพื่อนฝ่ายวิญญาณ (ที่ดี) ของเพื่อนๆ ด้วย ไม่ใช่เพียงผู้ที่รับฝ่ายเดียวอีกต่อไป นั่นเป็นเรื่องเพื่อนฝ่ายวิญญาณของผม ทีนี้ผมจะคุยถึงโยนาธาน เพื่อนคนสำคัญของดาวิด กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของประเทศอิสราเอลบ้าง ไม่ใช่สถานการณ์ที่ง่ายเลยในการที่เราจะเป็นมิตรกับศัตรูของพ่อในสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงเนื่องจากเรื่องบัลลังก์ ในขณะที่ดาวิดถูกตามฆ่าจากพ่อของตัวเอง
.
“อยู่มาเมื่อดาวิดทูลซาอูลเสร็จแล้ว จิตใจของโยนาธานก็ผูกสมัครรักใคร่กับจิตใจของดาวิด และโยนาธานก็รักเธออย่างรักชีวิตของท่านเอง” (1 ซามูเอล 18:1)
.
โยนาธานกับดาวิดทำสัญญากัน แสดงความรักซึ่งแก่กันและกัน ความผูกพัน ระหว่างทั้งสองคนนี้ ไม่ใช่แค่เพียงคำพูดแต่ยังแสดงออกด้วยการกระทำ เมื่อดาวิดตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก โยนาธานไม่เคยทิ้งดาวิดแม้แต่ครั้งเดียว และดาวิดเองก็รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับโยนาธานในเรื่องที่ต่างฝ่ายจะดูแลครอบครัวของอีกฝ่ายด้วย ถือว่าเป็นเรื่องกดดันสำหรับทั้งคู่ สำหรับโยนาธานคนหนึ่งคือพ่อ กษัตริย์แห่งอิสราเอลในตอนั้น โยนาธานไม่ได้ช่วยดาวิดแบบหลบๆ ซ่อนๆ แต่ออกตัวชัดเจนในการช่วยเหลือเพื่อนคนสำคัญ ฝ่ายดาวิดเองกษัตริย์แห่งอิสราเอลกำลังตามฆ่าอยู่แค่หลบหนีก็ยากแล้ว ดาวิดต้องอยู่อย่างหวาดผวาในทุกวันทุกคืน ไม่รู้ว่าตัวเองจะถูกฆ่าเมื่อไหร่ แต่เพราะสัญญาที่มีต่อโยนาธานจึงไม่ได้ฆ่าซาอูลและยังดูแลครอบครัวฝ่ายโยนาธานอีกด้วย
.
“มิตรสหายย่อมรักกันทุกเวลา และพี่น้องเกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก”
(สุภาษิต 17:17)
.
ครั้งหนึ่งดาวิดมั่นใจแน่แล้วว่าซาอูลประสงค์ร้ายกับตัวเอง จึงเล่าให้โยนาธานฟังโยนาธานไม่ได้เข้าข้างดาวิดไปในทุกเรื่อง เพื่อนที่ดีย่อมไม่เข้าข้างอีกฝ่ายโดยไม่ไตร่ตรอง คิด หาเหตุผล แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รับฟังใดๆ เมื่อโยนาธานได้ข้อมูลจากดาวิดแล้ว โยนาธานจึงไล่สืบหาความจริง และเมื่อมีภัยอันตรายต่อเพื่อนสนิทจริงๆ โยนาธานก็รักษาสัญญาที่จะให้ความช่วยเหลือเมื่อต้องการ เราต้องสัตย์ซื่อในความสัมพันธ์ด้วย
__________________________
.
พระเยซูเองก็ยกย่องความรักถึงความรักแบบเพื่อนแท้ด้วยเช่นกัน
.
“ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน”
(ยอห์น 15:13)
.
แน่นอนว่าเราทุกคนต้องการเพื่อนฝ่ายวิญญาณที่ดี แต่ในขณะที่เราคิดเช่นนั้นตัวเราเองเป็นเพื่อนฝ่ายวิญญาณที่ดีสำหรับใครสักคนหรือยัง เราสามารถอธิษฐานอย่างมั่นใจที่จะขอเพื่อนแบบนี้จากพระเจ้า และขอพระเจ้าด้วยความถ่อมใจที่จะพัฒนาเราที่จะเป็นเพื่อนฝ่ายวิญญาณที่น่ารักสำหรับใครสักคน
#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://www.choojaiproject.org/choojai-forward)
Related Posts
- Illustrator:
- Jostar
- พี่ชายผู้อบอุ่นละมุนละไม เวลาใส่หมวกกันน๊อคแล้วนั่ลล๊าคดั่ง Pororo อดีตมาสเซอร์วิชาสอนศิลปะ ปัจจุบันถวายตัวรับใช้ที่โบสถ์สไตล์ลอฟๆ ชอบขีดๆ เขียนๆ วาดๆ
- Editor:
- Perapat T.
- Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)
