EP.18

Hope: ความหวังที่ฉันเลือก


ต้นเรื่อง: คุณ Nattanicha Seesaard


 

หลังผ่านพ้นความยินดีที่สำเร็จการศึกษาแล้ว

เด็กจบใหม่แทบทุกคนต้องเผชิญกับความกังวลกันทั้งนั้น

กังวลในทิศทางที่ต้องไปต่อ กังวลที่กำลังจะต้องก้าวเข้าสู่วัยทำงาน กังวลในอนาคต

.

เมื่อพูดถึงความหวัง เรื่องที่ฉันนึกถึงเป็นอันดับแรกก็คือประสบการณ์ในช่วงนั้นแหละ

___________________

 

ช่วงที่เพิ่งจบปริญญามาหมาดๆ ความกังวลทั้งหลายถาโถมเข้าใส่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมั่นใจมากว่าตัวเองต้องหางานได้แน่ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็ได้รู้แล้วว่าว่าความมั่นใจที่มีนั้นคลอนแคลนเหลือเกิน

 

สำหรับเพื่อนคนอื่น เป้าหมายแรกมักจะเป็นที่ฝึกงาน ซึ่งถ้าที่ผ่านมาระหว่างฝึกทำตัวดีไม่มีปัญหาแล้วทางบริษัทไม่มีนโยบายไม่รับคนเพิ่มก็ไม่น่าพลาด แต่เป้าหมายนั้นไม่ใช่สำหรับฉัน

 

ย้อนไปถึงตอนฝึกงาน ในตอนนั้นฉันเลือกฝึกทำข่าวในสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เพราะอยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งถ้ามองในแง่ของประสบการณ์ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจเลือกที่ดีเลยทีเดียว เพราะได้ลองหลายอย่าง ตั้งแต่เขียนข่าว, ตัดต่อ, การใช้เครื่อง Mixer, Switcher, คุมคอมพิวเตอร์ รวมทั้งเป็นตากล้องถ่ายวีดีโอ

 

สุดท้ายแล้วก็ได้คำตอบที่ชัดเจนเลยว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ไม่ใช่ตัวเรา…

“เราอาจแค่ชอบ แต่ไม่ได้ ‘รัก’ ในสิ่งที่ทำ!”

 

คำตอบชัดเจนนั้นมาแทบจะทันทีหลังจากที่ฉันได้ลองทำหลายอย่างที่ว่า  ด้วยความที่ฉันทำสิ่งเหบ่านั้นได้ในระดับดีพอๆ กัน แต่กลับไม่มีอย่างไหนที่โดดเด่นขึ้นมา และไม่มีสิ่งไหนเลยที่ฉันมีความสุขจนจะอยากทำมันต่อไปเรื่อยๆ เพราะฉันคิดว่าปัจจัยในการกำหนดเป้าหมายของงานในอนาคตก็ควรจะมี “ความสุข” รวมอยู่ในนั้นด้วย เพราะถ้าไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำเลยก็คงไปได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง

คราวนี้ พอรู้ตัวว่าอะไรที่ลองมามันไม่ใช่ก็เริ่มอธิษฐานอย่างจริงจัง ทูลขอให้พระเจ้านำว่าจะทำอะไรต่อไป

 

การอธิษฐานและรอคอยนั้นไม่ง่ายเลย…

 

ความรู้สึกระหว่างรอมันทรมานจริงๆ ทั้งที่ตั้งใจจะปล่อยให้พระเจ้าจัดการ แต่ก็ยังกังวลจนนอนไม่หลับ สาเหตุของความกดดันคอยจู่โจมเข้ามาทำให้ตาสว่าง

 

“ทำไมยังไม่ได้งานอีก?” / “เมื่อไหร่จะมีคนมาเรียกไปสัมภาษณ์ซะที?”

“นี่เราจบมาแบบไม่มีคุณภาพเลยเหรอ?” / “แล้วอย่างนี้เกียรตินิยมที่ได้มาจะมีประโยชน์อะไร?”

“ที่บ้านเราไม่ได้มีเงินขนาดจะมารองรับเราที่ยังไม่มีงานนะ ต้องรีบหาให้ได้แล้ว!”

 

ช่วงเวลาแบบนี้แหละที่ทำให้ฉันโหยหาพระเจ้าเหลือเกิน ขณะนอนไม่หลับก็อธิษฐานวนไป ไม่ใช่ว่าต้องการให้พระเจ้ามอบงานให้วันนี้ พรุ่งนี้ แต่เป็นความโหยหาที่อยากพักสงบกับพระองค์ อยากจะให้พระองค์ประทานสันติสุขให้… พอทบทวนมาได้ถึงตรงนี้ก็เข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาฉันละเลยพระเจ้ามากแค่ไหน

 

“ฉันให้เวลากับพระเจ้าน้อยเกินไปไหม

และเวลานี้ ฉันเข้าหาพระองค์เมื่อต้องการบางสิ่งงั้นหรือ?”

 

เมื่อรู้อย่างนั้นก็สารภาพบาปกับพระองค์เพิ่มเข้าไปต่อจากการอธิษฐาน เพื่อขอให้พระองค์ได้ยกโทษกับเด็กเอาแต่ใจคนนี้

 

“พอได้สารภาพไปแล้วความกังวลก็น้อยลง
กลายเป็นความหวังเข้ามาแทนที่!”

 

หวังอย่างเชื่อมั่นด้วยว่าพระเจ้าจะไม่ทิ้งเราไปไหนและพระองค์มีแผนการเพื่อเราอย่างแน่นอน ในระหว่างนั้นก็อธิษฐานอย่างใจจดใจจ่อ

 

“จงมอบทางของท่านไว้กับพระเจ้า วางใจในพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ”
(สดุดี 37:5)

 

ไม่นานนักการเรียกสัมภาษณ์งานก็เกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่นจนมั่นใจว่าได้แน่ๆ แต่ผลที่ได้รับกลับเป็นความเงียบ

เท่านั้นไม่พอ! การสัมภาษณ์ครั้งต่อมาก็เป็นอย่างเดิม

เหมือนเป็นการทดสอบความหวังใจในแผนการของพระเจ้าที่จัดเตรียมเพื่ออนาคต ความท้อแท้จู่โจมเข้ามาอีก แต่พระองค์ก็บอกกับฉันว่า

 

“พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า
เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ
เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า”
(เยเรมีย์‬ ‭29:11)


ข้อความที่ว่า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ ทำให้ฉันมั่นใจได้ว่าการที่ถูกปฏิเสธไม่ใช่เพราะเราไร้ความสามารถ แต่เป็นเพราะที่แห่งนั้น ‘ไม่ใช่’ สำหรับเรา และสำหรับแผนการของพระเจ้าด้วย ซึ่งพอเวลาผ่านไป พระเจ้าก็ทรงเปิดเผยคำตอบของพระองค์ให้กับเรา ทุกอย่างมันเหมาะสม แล้วก็ง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ความหวัง เป็นเมล็ดเล็กๆ ที่พระเจ้าทำให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อหวังแล้ว ก็อย่าลืมที่จะวางใจในพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรา รวมทั้งฝากทุกสิ่งไว้กับพระองค์ และทุ่มสุดกำลังในส่วนของเราด้วยค่ะ

.

ขอพระเจ้าอวยพร


#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://www.choojaiproject.org/choojai-forward/ )


Previous Next

  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน