EP.28

เบญจเพส เคราะห์ร้ายในวัย 25


“ขณะที่ยังอยู่ในบรรยากาศปีใหม่นี้

เราจะได้ยินคําทํานายทั้งในเรื่องน่ากลัวและเรื่องดีๆ

หลายคนทํานายด้วยความมั่นใจและดูน่าเชื่อถือ

จงอย่าตื่นตกใจ ความมั่นใจของเรายังคงอยู่ในพระองค์ผู้ทรงเป็นหัวใจของพระวจนะ

พระองค์ทรงฉวยเราและอนาคตของเราไว้อย่างมั่นคง”

– มานาประวันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม (ผู้เชี่ยวชาญพูดอะไร) –

______________________

 

ช่วงเดือนแรกของปีนี้ ข้าพเจ้าได้ทําการย้ายที่อยู่ และต้องประสบกับเรื่องไม่คาดคิดอย่างโดนขว้างหินใส่บ้าน ประตูกระจกร่วงละเอียด พื้นแตก

 

จากนั้นอีกไม่นานประตูเหล็กก็หล่นจากรางระหว่างกําลังเปิดประตู ทําให้บานประตูแผ่นกว้างเอียงล้มจนเกือบทับตัว แล้วยังเรื่องยิบย่อยอย่างส้วมตัน กระถางต้นไม้หวิดจะตกใส่หัว เผลอกินของหมดอายุจนท้องเสีย ฯลฯ…

 

เรื่องที่เกิดติดกันวันเว้นวันทำให้คนรอบข้างเริ่มเอ่ยความเห็นให้เข้าหู บ้างสงสัยว่าปีนี้ปีชง บ้างว่าไม่ได้ขอเจ้าที่ก่อนมาอยู่ บ้างว่าเป็นเพียงคราวเคราะห์ ฯลฯ

 

ประโยคลี้ลับที่สุดคือตอนมีคนถามว่า “ปีนี้อายุเท่าไหร่?”

แล้วเกิดนึกขึ้นได้ว่า “ปีนี้ 25 พอดีเลย”

.

 

นับอายุไปมาก็อยู่ในวัยเบญเพสอย่างที่คนไทยเชื่อกันว่าจะมีเรื่องซวยเกิดขึ้นในทุกช่วงอายุที่ลงท้ายด้วยเลข 5

 

ไม่พอ เลื่อนผ่านหน้า News Feed ใน Facebook แล้วก็เจอคนแชร์คำพยากรณ์ของหมอดูคนดังว่าคนที่เข้าข่ายปีชงในปีนี้จะมีปัญหาด้านการเงิน

 

ประมาณสัปดาห์ถัดมาข้าพเจ้าก็ได้เปิดจดหมายของ กยศ. อ่าน แล้วพบว่าปีนี้เป็นปีแรกที่ต้องเริ่มจ่ายหนี้ ซึ่งพอบังคับตัวเองให้ตรวจสอบยอดรวมแล้วเห็นตัวเลขก็ได้แต่ตกใจว่าอีกกี่สิบปีถึงจะใช้หมด

 

อีกไม่กี่วัน ข้าพเจ้าก็ได้รับโทรศัพท์รวม 4 สายถ้วนจากที่บ้าน ทั้งข่าวร้ายที่ทําให้กังวลซึ่งมีมาเป็นระยะๆ และแนวโน้มของสถานการณ์ที่ช่วงหลังมานี้ดูจะแย่ลงไปเรื่อยๆ และทั้งความรับผิดชอบส่วนตัวที่ต้องมีเพิ่มมากขึ้นอีกอย่าง นั่นคือเงินประกันที่ต้องเริ่มจ่ายด้วยตัวเองในระยะครึ่งปีนี้เป็นเงินก้อนที่จํานวนรวมอาจดูไม่มากสําหรับคนทั่วไป แต่สําหรับวัยเรียน (เพิ่งจบ) ที่กําลังจะโตเป็นผู้ใหญ่อย่างข้าพเจ้าแล้ว เงินก้อนนี้เป็นเหมือนหลุมดํา ขนาดใหญ่ทีเดียว

 

______________________

 

หลายอย่างกําลังจะเกิดขึ้นในปีที่ 25 ทั้งเหตุการณ์ต่างๆ และภาระทั้งหลาย แน่นอนว่าสุดท้ายคริสเตียนอย่างข้าพเจ้าก็ย่อมไม่เชื่อในเรื่องของปีชง วัยเบญเพส หรืออะไรทํานองนั้น เพราะพระเจ้าก็ไม่ได้บอกผ่านพระคัมภีร์ไว้ว่าในช่วงอายุที่ลงท้ายด้วยเลข 5 จะเกิดวิกฤตการณ์ความซวยพุ่งเข้าใส่ ที่สําคัญคือผู้เชี่ยวชาญคนไหนก็ไม่สามารถรับรู้และกําหนดอนาคตของข้าพเจ้าได้ ดังนั้นมันไม่มีเหตุผลเลยที่จะให้ใครต่อใครคอยบอกว่าภาพรวมในชีวิตประจําปีที่จะถึงนี้เป็นอย่างไร

 

“อนาคตเป็นส่วนของพระเจ้า

หน้าที่ของข้าพเจ้าคือการอธิษฐาน วางใจ

และทําในส่วนที่ตัวเองสามารถทําได้อย่างสุดความสามารถ”

 

อย่างน้อยเรื่องของ “ปีชง” กับ “วัยเบญเพส” ก็ได้มอบความจริงบางส่วนกับข้าพเจ้า

 

ความจริงอย่างแรกบอกกับข้าพเจ้าว่า: “สถานการณ์คาดไม่ถึงในอนาคตอันใกล้และไกล” ที่บางคนว่า “ซวย” บางคนว่าเป็น “บททดสอบจากพระเจ้า” มักเกิดขึ้นกับมนุษย์โลกอย่างเราเสมอเป็นเรื่องปกติธรรมดาประจําวัน ไม่ใช่เฉพาะกับปีที่ลงท้ายด้วยเลข 5 เท่านั้น (ประกันชีวิตถึงขายดีไงล่ะ)

 

ความจริงอย่างที่สองบอกกับข้าพเจ้าว่า: สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังกังวลไม่ใช่เรื่อง “ปีชง” กับ “วัยเบญเพส” แต่เป็นวัย 25 ปีในการก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่ข้าพเจ้าไม่เคยเฝ้ารอมาถึงแล้วอย่างไม่ทันตั้งตัวโดยไม่สามารถผลักออกหรือชะลอไปได้ ทั้งภาระและการจัดการที่ไม่เคยมั่นใจในตัวเองเลยว่าจะทําได้ดี ก็มาถึงสภาวะจําเป็นที่ต้องเริ่มพยายามทําความเข้าใจหรือทําอะไรกับมันสักอย่าง–ไม่ใช่แค่ผลัดหนีไปเรื่อยๆ อย่างที่เคยทํามาตลอด

 

ป.ล. เรื่องของผู้ใหญ่ที่ไม่เคยอยากแตะต้องกลับต้องพยายามใส่เข้าไปในหัวบ้างแล้ว อย่างเรื่องประกันสังคม, ประกันชีวิต, ตรวจสุขภาพฟันประจํา ปี, แยกผ้าขาวกับผ้าสีก่อนซัก, สอบใบขับขี่, จ่ายค่าไฟออนไลน์, สิทธิบัตรทอง, เงินออมสําคัญมาก, น้ํายาล้างห้องน้ํา ห้ามใช้กับอ่างล้างหน้า, ชีวิตเงินผ่อน ฯลฯ

 

ความจริงอย่างที่สามบอกกับข้าพเจ้าว่า: การโตเป็นผู้ใหญ่มันยากอย่างที่ไม่เคยอยากเป็นนั่นแหละ และมันก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ ตามเลขอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ทั้งในส่วนที่สามารถทําได้และส่วนที่ไม่สามารถทําได้ จงเชื่อเสมอว่าในอนาคตที่ไม่มั่นคงมีความมั่นคงของมันอยู่ เพราะ

 

“ถึงเราจะไม่รู้จักอนาคต แต่เราก็รู้จักผู้ทรงควบคุมอนาคต”

 

ฉะนั้นแล้ว ทางเดียวที่ข้าพเจ้าจะรอดในความไม่พร้อม ไม่มั่นใจ และไม่มั่นคงของตัวเองในการเติบโตขึ้นอีกปีได้ ก็ด้วยการที่ข้าพเจ้ามอบทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปีไว้กับพระเจ้า–ผู้วางอนาคตของข้าพเจ้าไว้ในแผนงานของพระองค์

 

ความจริงอย่างที่สี่บอกกับข้าพเจ้าว่า: อย่าเชื่อถือในตัวมนุษย์และคำเทียมเท็จทั้งหลายที่พระเจ้าไม่ได้บอก

______________________

 

ขอบคุณพระเจ้าที่มีความจริงในความไม่จริงเสมอ

และขอให้ข้าพเจ้าแสวงหาพระเจ้าก่อนในทุกสถานการณ์อันน่าหวาดวิตก

.

ด้วยความรัก ความเชื่อ และชูใจ

EMMA C.


#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://www.choojaiproject.org/choojai-forward/ )


Previous Next

  • Author:
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Editor:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน