เสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด (อาเมน(

EP.34

เสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด… (อาเมน)


ผู้เขียน: Kuchi Demo


ณ จังหวัดเชียงใหม่
เย็นวันที่ 17 เมษายน 2018

 

ระหว่างขับรถกลับบ้านในเย็นวันที่ 17 เมษายน อยู่ดีๆ ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มและฝนก็ดูจะตั้งเค้า

 

ผม ภรรยาและลูกสาวตัวเล็กๆ ของเราทั้ง 2 คน รีบตรงกลับบ้านเพราะอากาศเริ่มส่อแววแปรปรวน ทั้งที่อีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านแล้วแท้ๆ แต่ในขณะที่กำลังเลี้ยวรถ ก็เกิดลมก็กรรโชกแรงจนทำให้ต้นไม้ใหญ่ด้านหน้าหักโค่นลงมาขวางถนน

 

 

ผมค่อยชะลอรถและคิดว่าจะถอยรถเพื่อเปลี่ยนเส้นทางดีมั้ย พอมองผ่านกระจกหลังก็เห็นว่ามีรถบรรทุกหกล้อจอดต่อท้ายรถของเราอยู่ ตอนนั้นเองที่ผมเหลือบไปเห็นว่าข้างๆ รถของเราคือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และเสาไฟฟ้าที่กำลังไหวกระเพื่อมเพราะแรงลม



ผมตัดสินใจเร่งเครื่องไปข้างหน้า (เพราะยังพอมีระยะห่างกับต้นไม้ที่ล้มอยู่ข้างหน้าเยอะพอสมควร) ไม่กี่อึดใจก็มีเสียงเหล็กบิดตัว และตามมาด้วยเสียงกระทบพื้นไล่หลังมาอย่างเฉียดฉิว รถของเราติดอยู่ระหว่างต้นไม้ที่ล้ม และป้ายเหล็กมหึมาที่พับครืนลงมา

 

 

ตอนนั้นท้องฟ้าเต็มไปด้วยลมพายุ แล้วก็มีลูกเห็บเม็ดโตๆ โปรยกระหน่ำลงมาตลอดเวลา

 

ในเหตุการณ์ตอนนั้น น้องเอิงเอย ลูกสาวคนโตของผมร้องไห้เพราะตกใจ ส่วนน้องต้องตา ลูกสาวคนเล็กยังคงสนุกกับการกินอยู่ตลอดเวลาที่เรารอให้พายุร้ายผ่านไป  แม้เหตุการณ์รอบตัวจะดูย่ำแย่ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านบน แต่ก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการปกป้องที่ไม่ได้ทำให้ครอบครัวเราได้รับอันตรายใดๆ เลย ทุกคนภายในรถของเรายังปลอดภัย

 

“ไม่มีการร้ายใดๆ จะตกมาบนท่าน ไม่มีภัยมาใกล้เต็นท์ของท่าน

เพราะพระองค์จะรับสั่งเหล่าทูตสวรรค์ ของพระองค์ในเรื่องท่าน

ให้ระแวดระวังท่านในทางทั้งปวงของท่าน”

(สดุดี 91:10-11)

 

ผมต้องขอขอบคุณน้องๆ ร้านอาหารแถวบ้านที่มาช่วยจัดการต้นไม้ รวมถึงคนงานที่บ้านทุกคนด้วยที่มาช่วยเราได้ทันทีหลังฝนหยุด สุดท้ายเป็นพระคุณพระเจ้าที่ทรงปกป้องชีวิตครอบครัวของเราไว้ท่ามกลางเหตุการณ์อันตรายทั้งหมดนี้ มีเพียงรอยแผลเล็กๆ ที่ท้ายรถที่ฝากเอาไว้เตือนใจว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ช่วยเหลือเราในครั้งนี้จริงๆ

 

 

วันรุ่งขึ้นผมสำรวจรถอีกครั้งว่ามีร่องรอยความเสียหายมากกว่าที่เห็นเมื่อวันก่อนหรือไม่

 

จากเหตุการณ์เมื่อวานว่าหวาดเสียวแล้ว วันนี้ตอนเช้าพึ่งสังเกตเห็นว่าจริงๆ ท้ายรถได้รอยถากๆ จากป้ายที่ล้มลงมาด้วย (เมื่อวานหลังถึงบ้านก็พยายามหาร่องรอย แต่คงด้วยความมืดเลยไม่เห็น) การได้เห็นรอยถากยิ่งทำให้รู้เลยว่า ถ้าช้ากว่านั้นแม้แต่เสี้ยววินาทีเราอาจจะต้องอยู่ใต้กองเหล็กแน่ รู้อย่างนี้ก็ยิ่งขอบคุณพระเจ้าที่ยังให้มีสติที่จะเร่งเครื่องออกมาอย่างพอเหมาะพอเจาะ

 

 

มีหนึ่งรอยเพิ่มเติมที่ผมเห็นในตอนเช้าคือท้ายรถมีรอยที่ป้ายลงมาเฉี่ยวนิดนึงด้วย สีเหลืองของป้ายติดอยู่ที่ท้ายรถยาวประมาณ คืบหนึ่ง ถ้าช้าไปกว่านี้ซักหน่อย คงไม่ใช่แค่รถเปื้อนสีเท่านั้น

“พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก

ฉะนั้นเราจะไม่กลัว แม้ว่าแผ่นดินโลกจะเปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าภูเขาทั้งหลายจะโคลงเคลงลงสู่สะดือทะเล

แม้ว่าน้ำทะเลคึกคะนอง และฟองฟู แม้ว่าภูเขาสั่นสะเทือนเพราะทะเลอลวนนั้น”

(สดุดี 46:1-7 ฉบับ 1971)

.

#ด้วยรักและปลอดภัย


#ชูใจชวนแชร์ เพราะเรารู้ว่าทุกคนมีเรื่องเล่า… ชูใจจึงชวนมา ‘ส่งต่อ’ เรื่องราวที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตของคุณเพื่อ ‘ชูใจ’ คนอื่นต่อไป ( <3 อ่านรายละเอียดได้ที่ >> https://www.choojaiproject.org/choo


Previous Next

  • Illustrator:
  • Emma C.
  • เด็กสาวหน้านิ่งจากเมืองกรุง มุ่งหน้าใช้ชีวิตในเมืองเหนือ พระเจ้านำให้ได้มาทำงานกับชูใจ เธอผู้นี้มีความสามารถหลากหลาย ทั้งวาดภาพ เขียน เรียบเรียง และเอาขามาพาดคอระหว่างนั่งทำงาน เธออินกับการสะกดคำให้ถูกต้องตามราชบันฑิตฯ และมีรสนิยมวินเทจผิดจากความเป็นเจนวาย เป็นหนึ่งใน Avenger ทีมบก.ที่จะมาช่วยชูใจผู้อื่นกัน
  • Editor:
  • Perapat T.
  • Blogger ผู้มากความสามารถในงานเขียน เป็นคริสเตียนที่เรียนสังคมวิทยา ฯ มาอย่างโชกโชน สเตตัสปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระ และ รับใช้พระเจ้าไปด้วย :)